ครั้งแรกกับ 2023 BMW S1000RR ในสนามช้าง ของดีจากเยอรมัน

 

ครั้งแรกกับ 2023 BMW S1000RR ในสนามช้าง ของดีจากเยอรมัน 

การทดสอบครั้งนี้พวกเราก็ได้ไปทดสอบที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต บุรีรัมย์ แน่นอนว่าเป็นการทดสอบที่เต็มประสิทธิภาพของรถ ก่อนที่เราจะมาดูฟิลลิ่งการขับขี่ เรามาดูสเปกกันดีกว่า เริ่มต้นที่เครื่องยนต์กันก่อนเลย 

เครื่องยนต์ 

 

 

เครื่องยนต์เป็นเครื่องยนต์ขนาด 999cc 4 สูบเรียง 4 จังหวะ มาพร้อมกับเทคโนโลยี BMW ShiftCam มีขนาดลูกสูบอยู่ที่ 80 มิลลิเมตร ช่วงชักอยู่ที่ 49.7 มิลลิเมตร กำลังอัดอยู่ที่ 13.3:1 ให้แรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 210 Hp ที่รอบ 13,750 รอบ/นาที มีแรงม้ามากกว่าตัว ก่อนหน้านี้ 3 HP แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 113 นิวตันเมตร ที่รอบ 11,000 รอบ/นาที ตัวเครื่องยนต์มาพร้อมกับการขับขี่ 4 โหมดที่เป็น Standard Riding (Rain, Road, Dynamic, Race) + Riding Modes Pro: Race Pro 1, Race Pro 2, Race Pro 3 โดยโหมด Pro: Race1-3 ผู้ขับขี่สามารถกำหนดค่า Engine, Engine Brake, Traction (DTC), Wheelie (DTC), ABS, DDC ได้เอง

ตัวรถยังมีระบบ

Launch Control

Pitlane-Limiter

DTC Shift +/- • Brake-Slide Control

DDC Dynamic Damping Control

BMW Motorrad Race ABS and ABS Pro

DTC (Dynamic Traction Control)

HSC (Hill Start Control)

Shift Assist Pro

เรียกได้ว่าจัดเต็มเลยทีเดียว ตัวรถยังใส่เทคโนโลยีที่มีชื่อว่า BRAKE SLIDE ASSIST มาให้ด้วย ตัวระบบนี้จะทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ตรงแผงคอ แต่โหมดนี้จะอยู่ในโหมด Race Pro โดยการตั้งแต่ก็แล้วแต่ผู้ขับขี่ตั้งได้เลย

 

 

ไม่เพียงแค่เครื่องยนต์เท่านั้น แฟริ่งของตัวรถยังเป็นแฟริ่งใหม่ทั้งหมดเลยไม่ว่าจะเป็นชุดหน้า ที่เพิ่ม Winglet เข้ามา ทำให้มีแรงกดของอากาศมากขึ้น

ความเร็วที่ 150 Km/Hr มีแรงกดที่ 4.3 Kg.

ความเร็วที่ 200 Km/Hr มีแรงกดที่ 7.6 Kg.

ความเร็วที่ 250 Km/Hr มีแรงกดที่ 11.9 Kg.

ความเร็วที่ 300 Km/Hr มีแรงกดที่ 17.1 Kg.

ชิลหน้าถูกปรับมาใหม่ให้สูงมากขึ้น ทำให้อากาศพ้นหัวมากขึ้นเวลาหมอบ 

 

 

แฟริ่งหลัง(เบาะคนซ้อน)แถมครอบท้าย สามารถถอดใส่กล้อง หรือ GPS ได้

แรมแอร์ และแอร์บ็อกซ์ ถูกปรับมาใหม่ (เหมือน M1000RR รุ่นก่อน) 

 

 

เฟรมของตัวรถถูกปรับมาใหม่ โดยเฟรมเป็นเฟรมของ M1000RR ในรุ่นก่อนหน้านี้ สวิงอาร์มปรับใหม่ แบตเตอรี่ของตัวรถเป็นแบบ Lightweight ที่มีน้ำหนักเบา 

 

 

โช้กหน้าเป็นแบบ Up-Side Down ที่มีแกนโช้กขนาด 45 มิลลิเมตร ท่สามารถปรับค่าต่างๆได้ครบครัน โช้กหลังเป็นแบบเดี่ยว ที่สามารถปรับค่าต่างๆได้แบบจัดเต็ม มาพร้อมกับสวิงอาร์มอลูมิเนียมแบบ WSBK 

เบรกหน้าเป็นดิกส์เบรกแบบคู่โดยทาง BMW ได้เปลี่ยนกลับไปใช้ของ Nissin ทั้งปั๊มบน และปั๊มล่าง ปั๊มล่างเป็นปั๊ม 4 พอทคู่จานเบรกหน้ามีขนาด 320 มิลลิเมตร

เบรกหลังเป็นดิกส์เบรกแบบเดี่ยว ปั๊มล่างแบบ 1 พอท มีขนาดจานดิกส์อยู่ที่ 220 มิลลิเมตร 

 

 

หน้าจอของตัวรถเป็นหน้าจอแบบ TFT  Display ไฟรอบคันมาในแบบ LED

ถังน้ำมันมีขนาด 16.5 ลิตร น้ำหนักตัวรถไม่รวมของเหลวจะอยู่ที่ 175 กิโลกรัม (M Package 173.3 Kg) น้ำหนักรวมของเหลวน้ำมันเต็มถังอยู่ที่ 197 กิโลกรัม (M Package 193.5 Kg) 

ความสูงจากเบาะถึงพื้นอยู่ที่ 832 มิลลิเมตร

มิติรถอยู่ที่ กว้าง(รวมกระจก)xยาวxสูง(ไม่รวมกระจก) = 848x2,073x1,205 มิลลิเมตร

ราคาของ 2023 BMW S1000RR สีดำ Black Strom Metallic ราคาอยู่ที่ 984,000 บาท

สีแดง Racing Red (Style Passion) ราคาอยู่ที่ 999,000 บาท 

 

 

ฟิลลิ่งด้านการขับขี่

ท่านั่ง

ท่านั่งเป็นท่านั่งโน้มไปข้างหน้าตามสไตล์รถสปอร์ตด้วยตัวรถที่ปรับมาใหม่ ทำให้พักเท้าผู้ขับขี่สูงขึ้น (ฟิลลิ่งรถแข่งมากขึ้น) แต่แฮนด์ของตัวรถไม่ก้มมากเท่าไหร่ ยังมีความสบายในการขับขี่ ช่วงแฮนด์จะแคบกว่ารถสปอร์ตทั่วไปเล็กน้อย ความสูงจากเบาะถึงพื้นอยู่ที่ 832 มิลลิเมตร ต้องบอกว่าวางเท้าได้เกือบเต็ม (ผู้ขี่สูง 177 เซ็นติเมตร) 

 

 

กำลังเครื่องยนต์

ต้องบอกว่าด้วยพละกำลังเครื่องยนต์ที่มีแรงม้าเพิ่มเข้ามาอีก 3 HP + กับระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ยอดเยี่ยมต้องบอกว่ามีความสมูทเป็นอย่างมาก เป็นมิตรกับผู้ขับขี่สุดๆ ระบบ แทร็กชั่นคอลโทลดีมากๆ ตัดเนียนแทบไม่รู้สึกเลย ความเร็วสูงสุดที่ผมทำได้ในสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต ทำได้ที่ 292 Km/Hr 

 

 

ระบบแอร์โร่ได้นามิกซ์

WingLet ที่เพิ่มเข้ามาทำให้ตัวรถนิ่งสุดๆ เวลาตกบั้ม ถ้าเป็นรถปกติ รถอาจจะมีอาการดิ้นๆ ที่ BMW S1000RR ต้องบอกว่านิ่งเป็นอย่างมาก

 

 

การควบคุม

ด้วยน้ำหนักที่เบา และแชสซีที่ปรับมาใหม่ ทำให้ตัวรถเลี้ยวง่ายกว่าเดิมมากๆ ด้วยความเพรียวของถังน้ำมัน ทำให้เราควบคุมรถได้ง่ายขึ้น 

 

 

ช่วงล่าง

ช่วงล่างของตัวรถที่ปรับได้ทำให้สามารถเซ็ทให้เข้ากับผู้ขับขี่ได้เลย แต่ด้วยรถเดิมๆ ที่เซ็ทมาจากโรงงานต้องบอกว่าหากขับขี่บนท้องถนนมีความพอดีอย่างแน่นอน แต่เราทดสอบในสนามแข่ง อาจจะมีอาการย้วยเล็กน้อย เพราะเราไม่ได้ปรับค่าต่างๆให้ละเอียดนั่นเอง โค้งความเร็วสูงอย่างโค้ง 4 ของ สนามตัวรถมีความนิ่งเป็นอย่างมาก สำหรับโค้ง 9-10-11 ที่เป็นโค้ง S พลิ๊กต่อเนื่อง ตัวรถพลิ๊กได้ไว และนิ่งมากๆ 

 

 

ระบบเบรก

ระบบเบรกเดิมๆจากโรงงานต้องบอกว่าหนึบมากๆ เอาอยู่สบายๆแน่นอน ระบบเบรกยังมีระบบ BRAKE SLIDE ASSIST มาให้ต้องบอกว่าเพียงแค่เบรกหน้า และเอียงรถ ท้ายรถก็สไลต์เลย (แต่สำหรับคนที่สไลต์เป็นแล้ว ปิดระบบไปเลยง่ายกว่า) 

 

 

สรุป

2023 BMW S1000RR เป็นรถที่เป็นมิตรกับผู้ขับขี่เป็นอย่างมาก ระบบที่ให้มากับรถจัดเต็ม ด้วยของหลายๆอย่างเป็นของ M1000RR รุ่นก่อนหน้านี้ ทำให้ตัวรถเป็นรถที่แรงมากๆ และมีความสมูทสุดๆ จะบอกว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปอย่างแน่นอน

ข้อสังเกต

ควิ๊กชิพเตอร์ไม่สามารถรวบเกียร์ได้ ต้องลงทีละเกียร์

หากใครสนใจ 2023 BMW S1000RR สามารถเข้าไปดูได้ที่ BMW Motorrad ใกล้บ้านได้เลยครับ

 

 

ขอขอบคุณ BMW Motorrad มากๆครับที่ให้โอกาสพวกเราทีมงาน Mocyc.com ได้เข้าร่วมทดสอบในครั้งนี้ 

 

 
ติดตามข่าวสารวงการมอไซค์ : www.mocyc.com
Page Facebook : www.facebook.com/MocycThailand
Youtube : www.youtube.com/channel/UC2zealFH63iys1sWHW6xFOg?view_as=subscriber
IG : instagram.com/mocycthailand