Yamaha YZF-R7 รถสปอร์ตระดับกลาง ที่พร้อมจะกระชากใจทุกคน

 

Yamaha YZF-R7 รถสปอร์ตระดับกลาง ที่พร้อมจะกระชากใจทุกคน

หลังจากที่ Yamaha YZF-R7 ได้เปิดตัวไปแล้ว ต้องบอกว่าได้รับเสียงตอบรับที่ดีเป็นอย่างมากๆเลยก็ว่าได้ เพราะทางผู้บริหารได้บอกว่า 1 ชั่วโมง มียอดขายออกไปกว่า 50 คันเลยทีเดียว ซึ่งในปีนี้ ทาง Yamaha ก็ได้ตั้งเป้าไว้ว่าภายในปีนี้จะขายรถให้ได้ 250 คัน ถือว่ามีความเป็นไปได้สูงเลยทีเดียว เพราะตอนนี้เรียกว่า Hot ซะเหลือเกิน ถ้าถามว่าจุดเด่นของ Yamaha YZF-R7 มาดูกันเลยดีกว่าครับ 

 

1. เครื่องยนต์

ต้องบอกว่า Yamaha YZF-R7 เป็นรถสปอร์ตขนาดกลางที่ใช้บล็อกเครื่องยนต์ 700cc ของทางค่าย ซึ่งเป็นบล็อกที่ดีที่สุดอีกด้วย ตัวของ Yamaha YZF-R7 มีเครื่องยนต์ขนาด 689cc DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ มีแรงม้าอยู่ที่ 73.4 แรงม้า ที่รอบ 8,750 รอบ/นาที (ทาง Yamaha นำไปขึ้นไดโนทดสอบได้ 76 แรงม้า) ทอร์กหรือแรงบิดอยู่ที่ 67 นิวตันเมตร ที่รอบ 6,500 รอบ/นาที กำลังอัดของเครื่องยนต์อยู่ที่ 11.5:1 เกียร์ 6 สปีด โดยตัวเครื่องยนต์ได้ถูกปรับปรุงให้เหมาะกับการใช้งานทั้งในสนาม และบนท้องถนน 

 

2. ช่วงล่าง

สิ่งที่โดดเด่นไม่แพ้ส่วนอื่นๆเลยนั่นก็คือช่วงล่างของตัวรถ โช้กหน้ามาในแบบ Up-Side Down ที่มีขนาดแกนโช้กอยู่ที่ 41 มิลลเมตร แถมยังสามารถปรับค่าของโช้กหน้าได้ 3 ค่า (Preload, Rebound, Compression) ครบครันเลยทีเดียว ค่าความแข็งของสปริงโช้กหน้าอยู่ที่ 18 N/mm มีระยะยุบอยู่ที่ 130 มิลลเมตร  โช้กหลังเป็นโช้กเดี่ยวแบบ Linked-type Monocross ที่สามารถปรับ Preload, Rebound ได้ ค่าความแข็งของสปริงอยู่ที่ 135 N/mm ระยะยุบอยู่ที่ 55 มิลลเมตร ระบบเบรกเบรกหน้าเป็นดิกส์เบรกแบบคู่ โดยปั้มเบรกบนเป็นของ Brembo เบรกหลังแบบดิกส์เบรก มีขนาดจานดิกส์อยู่ที่ 298 มิลลิเมตร ปั้มกระทุ้งเป็นของ Brembo เช่นกัน จานดิกส์มีขนาด 245 มิลลิเมตร ระบบเบรกหน้า และเบรกหลังมาพร้อมกับระบบ ABS 

 

3. ดีไซน์ของตัวรถ

ครั้งนี้ทาง Yamaha ได้ออกแบบการดีไซน์โดยย้ายไฟหน้าไปไว้ตรงกลาง โดยไฟหน้าเป็นไฟแบบ LED ขนาดใหญ่ที่มาพร้อมกับไฟ Daytime Running Light ไฟเลี้ยว และไฟท้ายก็มาในแบบ LED เช่นกัน เฟรมของตัวรถเป็นเฟรมแบบ Lightweight backbone ที่เปลท้ายสามารถถอดแยกได้ ทาง Yamaha ได้บอกว่าการออกแบบของ Yamaha YZF-R7 ได้ออกแบบมาให้เข้ากับ ซีรีย์ของ อาร์ซีรีย์ นั่นเอง ถังน้ำมันขนาด 13 ลิตร น้ำหนักของตัวรถรวมของเหลวแล้วอยู่ที่ 188 กิโลกรัม มิติของตัวรถอยู่ที่ กว้าง X ยาว X สูง อยู่ที่ 706 X 2,070 X 1,161 มิลลเมตร  หากใครจะติดควิ๊กชิพเตอร์ ทาง Yamaha เองก็ได้ทำการต่อปลั๊กมาให้พร้อมเสียบได้เลย สายชารจ์ USB ก็เช่นกัน ที่ทางโรงงานได้เตีรยมปลั๊กมาให้แล้ว 

 

 

สัมผัสแรก

สัมผัสแรกต้องบอกว่าส่วนตัวคิดว่าด้วยตัวเครื่องยนต์ของเจ้า Yamaha YZF-R7 มันจะเหมาะกับเครื่องยนต์สองสูบไหมนะ เพราะด้วยความเป็นรถสปอร์ตรอบปลายมันต้องจิ๊ดจ๊าดซิ ก่อนที่จะพูดถึงอัตราเร่ง เรามาดูที่ท่านั่งกันก่อนนะ

ท่านั่ง 

 

 

ต้องบอกว่าท่านั่งเป็นท่านั่งที่เป็นรถสปอร์ต แต่ไม่ได้สปอร์ตจ๋า ยังมีความสบายอยู่ไม่ก้มมาก ด้วยความสูงของเบาะถึงพื้นอยู่ที่ 835 มิลลิเมตร ก็สามารถเหยียบได้ค่อนข้างเต็มเท้า (ผู้ขับขี่สูง 177 เซ็นติเมตร) การวางแขน เนื่องจากเป็นรถสปอร์ต ต้องบอกว่าท่านั่งที่โน้มไปข้างหน้าเพื่อจับแฮนด์แขนตึงเล็กน้อย

กำลังของเครื่องยนต์ 

 

ต้องบอกว่าการทดสอบครั้งนี้เป็นการทดสอบในสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยนักเพราะฝนตกทำให้เราไม่ได้เทสความเร็วสูงสุดของตัวรถ  เนื่องเพราะการออกโค้งต้องใช้คันเร่งเนียนๆ ต้องบอกว่ากำลังของเครื่องยนต์เป็นอะไรที่ผมเซอร์ไพร์พอสมควร เพราะตอนแรกคาดว่าความเร็วในรอบปลายอาจจะไม่มี แต่ Yamaha YZF-R7 มีกำลังในรอบท้ายด้วยนั่นเอง ด้วยสภาพอากาศที่ฝนตกตัวผมเองทำความเร็วสูงสุดในสนามช้างฯ ได้ที่ 210-213 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่อาจารย์เป็ด ( วรวุธ พุทโธ ) ทำไว้ตอนสนามแห้งอยู่ที่ 240 กิโลเมตร/ชั่วโมง เรียกได้ว่าความเร็วปลายไม่เป็นสองรองใครเลยในรอบต้น-รอบปลาย ต้องบอกว่าเครื่องยนต์ CP2 ทำได้ดีมากๆ มีความเร็วตลอด ไม่รู้สึกตื้อเลย สลิปเปอร์คลัชท์ ทำงานได้ดีเลยทีเดียว

ช่วงล่าง

 

 

อย่างที่บอกตั้งแต่แรกว่าในการทดสอบสภาพฝนตก ยางเดิมที่ติดมากับรถเป็นยาง Bridgestone Battlax Hypersport S22 เรียกได้ว่าหนึบเลยทีเดียวกับสภาพอากาศที่ฝนตก ด้วยตัวช่วงล่างที่สามารถปรับค่าต่างๆได้ทั้งโช้กหน้า และโช้กหลัง ต้องบอกว่าเอาอยู่เลย สามารถปรับตามน้ำหนักของผู้ขับขี่ได้ ระบบเบรก ต้องบอกว่าเบรกหนึบ ดีมากๆ เกินคาดไปเยอะเลย เอาอยู่ในทุกสภาพถนนจริงๆ

ถึงจะเป็นการทดสอบแบบสนามฝนต้องบอกว่ามีโอกาสน้อยมากๆเช่นกันที่เราจะได้ทดสอบในสภาพอากาศแบบนี้ แต่ตัวรถเองก็ทำได้ดีเช่นกันในสภาพอากาศฝนแบบนี้

สรุป 

Yamaha YZF-R7 เป็นรถสปอร์ตที่ต้องบอกว่าเป็นรถที่เหมาะแก่ผู้ที่พึ่งอัพ cc เป็นอย่างมาก หรือใครที่อยากได้อารมณ์สปอร์ต แต่อยากได้อัตราเร่งดีๆ Yamaha YZF-R7 ก็ตอบโจทย์ ด้วยช่วงล่างของตัวรถที่สามารถปรับได้ คุ่มค่ามากๆเลย แถมยังขับขี่สนุก ขี่ง่ายอีกด้วย ระบบเบรกต้องบอกว่าดีมากๆ ด้วยปั้มบน และปั้มกระทุ้งของ Brembo มั่นใจในชื่อนี้ได้เลย

 

ข้อสังเกตุ

ตัวรถไม่มีเทคโนโลยีแทร็กชั่นคอลโทลมาให้ ต้องระวังเรื่องใช้คันเร่ง ในสภาพอากาศที่ฝนตก พื้นลื่น

Yamaha YZF-R7 มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 339,000 บาท หากใครสนใจสามารถเข้าไปดูได้ที่ศูนย์ยามาฮ่าไรเดอร์คลับ ใกล้บ้านได้เลยครับ  

https://m.facebook.com/YamahaRidersclubThailand/

ขอขอบคุณ ไทยยามาฮ่า มอเตอร์มากๆครับ ที่ให้พวกเราได้สัมผัส รีวิว และทดสอบในครั้งนี้

 

 

ติดตามข่าวสารวงการมอไซค์ : http://www.mocyc.com
Page Facebook : http://www.facebook.com/MocycThailand
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UC2zealFH63iys1sWHW6xFOg?view_as=subscriber
IG : http://instagram.com/mocycthailand