อยากจะขี่ Super Bike สายพันธุ์แชมป์ YZF-R1 ให้เก่งและปลอดภัย ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
อยากจะขี่ Super Bike สายพันธุ์แชมป์ YZF-R1 ให้เก่งและปลอดภัย ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
สวัสดีครับทุกๆคน พวกเราชาว Mocyc.com เชื่อว่าหลายคนนั้นมีความฝันอยากจะมีรถ Super Bike หล่อๆไว้เป็นของตัวเองเช่น Yamaha YZF-R1 ที่เป็น Super Bike สายพันธุ์แชมป์ 9 สมัยอย่าง Valentino Rossi ที่ตัวรถเองได้ถ่ายทอด DNA มาจะรถแข่งระดับโลกอย่าง Yamaha YZR-M1
แต่ก่อนจะไต่ระดับไปถึงจุดจุดนั้น เราก็ต้องเป็น Beginer หรือต้องฝึกฝนจุดเริ่มต้น วันนี้ทาง Mocyc.com จะมาแนะนำการเตรียมตัวก่อนที่จะไปขับรถขนาดใหญ่หรือ CC สูงๆอย่าง YZF-R1
โดยขั้นตอนแรกเราต้องมีความเตรียมความพร้อมในเรื่องของร่างกายถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุดในการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ทุกๆประเภท ไม่ว่าจะเป็น 150cc ไปจนถึง 1000cc ร่างการก็ต้องแข็งแรงพอสมควรที่จะควบคุมรถ
อย่างที่ 2 ต้องศึกษากำลังของเครื่องยนต์และชนิดของรถ และในวันนี้ Mocyc.com จะมาแนะนำรถจากทาง Yamaha เพราะอะไรถึงต้องเป็น Yamaha เพราะว่ามีรถทุกรุ่นทุกรูปแบบตั้งแต่ 150cc-1000cc ไม่ว่าจะเป็นรถที่มีครัทช์อย่าง Exciter150 YZF-R15 / MT15 / M-Slaz หรือจะเป็น 300cc อย่าง YZF-R3 / MT03 สูงขึ้นไปอีกนิดเป็น Super Sport สุดหล่อขวัญใจ Biker ขนาดกลางหลายๆท่านอย่าง YZF-R6 หรือจะเป็น Naked Bike MT-07 ถ้าหากยังสะใจไม่พอก็มี MT-09 และที่สุดของทาง Yamaha ก็คงหนีไม่พ้น YZF-R1 / YZF-R1M และ Naked Bike 1000cc MT-10 รุ่นเหล่านี้ถือว่าเป็นรุ่นยอดฮิตและเป็นรุ่นที่ขายดีเป็นอันดับต้นๆของประเทศไทย ยังไมรวมตระกูล XSR / Tracer / Tenere / Bolt / SR
เรียกได้ว่า Yamaha มีรถคลัตช์หลากหลายรุ่นให้เลือกใช้ โดยเริ่มต้น อยากให้ฝึกควบคุมรถขนาดเล็กก่อน เช่น YZF-R15 และ MT-15 ถ้าหากว่าเป็นผู้หญิงให้แนะนำเป็น Exciter150 เพราะเป็นรถคันเล็ก ขี่ง่ายลักษณ์เป็นรถใช้งานทั่วไปแต่ Performance ใกล้เคียงกับ YZF-R15 และ MT-15 กันเลยทีเดียว
-Exciter 150
มองภายนอกอาจจะมองว่าเป็นรถใช้งานทั่วไปแต่ขุมพลังที่ให้มานั้นมากถึง 150cc เป็นรถมีเกียร์ Sport Moped ออกตัวได้ดีเร่งแซงได้ง่าย เล็กคล่องตัวควบคุมง่าย ดีไซน์ Sport เร้าใจ ออกแบบตามหลักแอโรไดนามิค ถือได้ว่าเป็นรถขนาดเล็ก 150cc ที่ออกแบบมาได้อย่างลงตัว เหมาะกับมือใหม่ที่ยังไม่เคยขับขี่รถคลัตช์ หรือเป็นผู้หญิงที่หัดขับขี่รถคลัตช์
-YZF-R15 / MT-15
ทั้ง 2 คันนี้ เรียกได้ว่าเป็นพี่น้องกันใจคลาส 155cc ก็ว่าได้ มาพร้อมกับกำลังของเครื่องยนต์ 155cc 4วาล์ว เกียร์ 6 สปีด ระบบหัวฉีดอัจฉริยะ ระบายความร้อนด้วยน้ำและมาพร้อมกับระบบวาล์วแปลผันอัจฉริยะ VVA. YZF-R15 และ MT-15 เป็นรถที่ใหญ่ขึ้นมาจาก Exciter 150 ขึ้นมานิดหนึ่ง ทั้ง 2 คันนี้ เป็นรถทรง Sport และ Naked ซึ่งจะให้อารมณ์ท่านั่งใกล้เคียงกับพวกรถขนาดกลางเลย ทั้ง 2 คันนี้มีน้ำหนักที่เบาและควบคุมง่าย ทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่พอมีทักษะเบื้องต้นอยู่แล้วหรือต้องไปเรียน YRA (Yamaha Riding Academy)ในหลักสูตรเบื้องต้นก็สามารถขับขี่ได้สบายๆสำหรับในคลาสนี้
-YZF-R3 / MT-03
2 คันนี้ส่วนตัวผมถือว่าประทับใจอย่างมากเพราะส่วนตัวใช้ YZF-R3 ใช้งานอยู่เป็นประจำ ทั้ง 2 คันนี้เหมาะสำหรับกับผู้ขับขี่ที่ผ่านการอบรมของ YRA (Yamaha Riding Academy) หรือเป็นผู้ที่มีทักษะมากพอสมควรในการควบคุมรถที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาจาก 150cc แต่ก็ถือว่าเป็นรถในคลาส 300cc-400cc ที่มีน้ำหนักเบาควบคุมง่ายแต่สำหรับมือใหม่ที่ขยับมาจาก 150cc ขึ้นมาก 300cc-400cc ก็ควรจะระวังการเปิดคันเร่งแรกของตัวรถเพราะทั้ง2คันนี้มีรอบต้นที่จัด อัตรากำลังอัต 11.2 : 1 กระบูกสูบ x ช่วงชัก 68.0 x 44.1 มม. 4จังหวะ 2สูบเรียง DOHC 4 วาว์ล 321cc และน้ำหนักตัวรถ 169 กิโลกรัม YZF-R3 มีรูปทรงที่ออกแบบที่โฉบเฉี่ยว เล็ก ไม่ใหญ่มาก สำหรับคนสูง 170-175 เซนติเมตร ถือว่ากำลังดีเลยสำหรับ YZF-R3 / MT-03 2 คันนี้
-YZF-R6 / MT-07
ขยับใกล้กับพี่ใหญ่เข้ามาเรื่อยๆ กับ YZF-R6 / MT-07 2 คันนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีทักษะการขับขี่ที่สูงเพราะด้วย CC ของตัวรถมีมากถึง 600cc-700cc และรถมีน้ำหนักที่เยอะผู้ขับขี่จึงต้องมีร่างกายที่แข็งแรงและพร้อมในการขับขี่อยู่เสมอ ด้วยเครื่อยงยนต์ที่มีพละกำลังมากจนก้าวกระโดดจาก 300cc-400cc ทำให้การควบคุมนั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งท่านั่ง แรงบิดของตัวบุคคล น้ำหนักของตัวรถที่เปลี่ยนไปจากเดิมมากรวมไปถึงรูปทรง จาก 300cc กระโดดมา 600cc ต้องมีการทำการบ้านค่อนข้างเยอะไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขับขี่ ความใจเย็นไม่คึกคนอง การคุมอารมณ์เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เพราะอุบัติเหตุส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ล้วนจะเป็นเพราะความคึกคนอง และไม่มีทักษะการขับขี่มากพอที่จะขับขี่รถขนาดใหญ่ ถ้าหากขับขี่รถขนาด 600cc Super Sport นี้ได้ดี ถือว่าเป็นพื้นฐานพร้อมที่จะไปก้าวไป YZF-R1
-YZF-R1 / R1M / MT-01 / MT-09
และแล้วก็มาถึงกับพี่ใหญ่สุด YZF-R1 / R1M / MT-01 / MT-09 เหตผลที่ผมนำ MT-09 มารวมด้วยเพราะว่าในเรื่องของน้ำหนักของตัวรถและ Performance มีความใกล้เคียงกันถ้าหากวัดจากทักษะการขับขี่ของผู้ใช้รถถือว่าอยู่ในกลุ่มเดียวกัน 4 คันนี้ เป็นรถที่มีน้ำหนักมาก อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ ถ้าหากว่าสามารถควบคุมและศึกษารถในคลาส 600cc-700cc ได้เป็นอย่างดีก็ถือว่าเป็นพื้นฐานที่ดีในการขยับขึ้นมาขับในรุ่น 1000cc Yamaha YZF-R1 เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 998cc 4 จังหวะ Crossplane ระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมแรงม้า 200 ตัวที่ 13,500 รอบ/นาที ด้านทอร์คหรือแรงบิดอยู่ที่ 112 นิวตัน-เมตรที่ 11,500 รอบ/นาที ถือได้ว่าเป็นรถที่มีแรงทอร์คหรืออัตราเร่งแรงพอสมควร ผู้ขับขี่จึงต้องมีร่างกายที่พร้อมมากๆและต้องทักษะพอตัวที่ควบคุมรถ ภายในตัวรถก็ยังมีเทคโนโลยีที่ทาง Yamaha ได้เพิ่มเข้ามา ในจุดนี้ผู้ขับขี่ที่มี Yamaha R1 หรือ R1M ก็ควรที่จะศึกษาในส่วนนี้ให้มากๆเพราะมันสามารถปรับระบบของตัวรถให้เข้ากับตัวคุณเองได้
เป็นอย่างไรกันบ้างหละครับ กับพื้นฐานก่อนที่เราอยากจะมี Super Bike ไว้ขับขี่ซักคันหวังว่าจะเป็นความรู้และนำไปต่อยอดกันนะครับ ส่วนครั้งหน้าเราจะมานำเสนอหรือมีทริคอะไรดีๆก็จะเอามาฝากเพื่อนๆกันอีกครั้ง
ติดตามข่าวสารวงการมอไซค์ : http://www.mocyc.com
Page Facebook : http://www.facebook.com/MocycThailand
ข่าวสารวงการมอเตอร์ไซค์
03 มี.ค. 2563