D-Tracker 150 กับยางกึ่งวิบากในงาน Kawasaki Enduro Endurance 3 Hour Round 4 สุพรรณบุรี หนังชีวิตของนักแข่งรุ่นรวมดาวสื่อ

 

D-Tracker 150 กับยางกึ่งวิบากในงาน Kawasaki Enduro Endurance 3 Hour Round 4 สุพรรณบุรี หนังชีวิตของนักแข่งรุ่นรวมดาวสื่อ 

เรียกได้ว่าเป็นมหกรรมงานแข่งหนังชีวิตของใครหลายๆคนรวมถึงตัวผมเองด้วยที่เกิดความห้าว อยากแข่งงาน Enduro Endurance 3 Hour ก็ได้มีการพูดคุยกันในกลุ่มพี่ๆสื่อมวลชนว่า อยากจะแข่งกัน ซึ่งตัวผมเองก็อยากขี่ด้วยเช่นกัน งานนี้ เลยลงชื่อแข่งไปเลยจ้า......ซึ่งทางผู้จัดงานได้ประสานงานกับพี่ Golf Riding Mag ซึ่งเป็นโปรโมเตอร์ในรุ่นนี้ (ต้องขอบคุณพี่ Golf มากครับที่เดินเรื่องให้ทั้งหมดเลย)  รุ่นนี้เองมีจำนวนผู้เข้าแข่งขั้นครั้งแรกทั้งหมด 15 คนด้วยกัน แต่เนื่องจากมีพี่ๆบางคนติดภารกิจจึงทำให้เหลือ 12 คน ซึ่งมันเป็นจำนวนที่หารลงตัวกับรถ 4 คันพอดี ซึ่งก่อนวันแข่งเป็นวันเสาร์ที่ 19 ทาง Kawasaki ก็ได้จัดคอร์สเรียนพิเศษให้พี่ๆสื่อได้เรียนรู้ในด่านต่างๆซึ่งการเรียนครั้งนี้ ได้ อาจารย์เล่ย์ที่มีสมญานามว่า ทางดีๆมีไม่ไป มาเป็นผู้สอนขับขี่เบื้องตัน และมีจารย์เข็ม แชมป์เอ็นดูโร่ คาวาซากิประเทศไทย มาสอนด้วยเช่นกัน และทั้งสองท่านเองเป็นคนจัดรูปแบบเส้นทางการแข่งขั้นทั้งหมด

 

 

งานนี้มีครบรสชาติเลยทีเดียว ก่อนหน้าการแข่งขันทางทีมงานคาวาซากิ ได้จัดรถมาให้พวกเราเป็นรถ D-Tracker 150 ที่ทางทีมงานบอกว่า สบายใจได้เลย เปลี่ยนยางให้หมดแล้ววว !! หึๆ กลับมาถึงวันเสาร์กันต่อ พอไปถึงสนาม ทางทีมงานก็จัดรถสำหรับพี่ๆสื่อจะใช้ในงานถ่ายรูป แล้วก็มีพี่จอย Kawasaki ได้บอกมาว่า รถแข่งอยู่ด้านโน้นนะ แถวๆรถที่เอาไว้ Test Ride แล้วพวกเราก็เดินไปดูรถที่จะใช้ในการแข่งขันของวันอาทิตย์ ซึ่งครั้งแรกที่ทุกคนได้เห็นรถต่างอุทานมาพร้อมกันว่า .......... ยางกึ่งเนี่ยนะที่เปลี่ยนให้ หลังจากที่พวกเราเห็นรถที่ใช้แข่งกันแล้วก็เตรียมตัวไปเรียนในคอสต่างๆซึ่งทางพวกเราเองได้เรียนกับอาจารย์เข็มทั้งหมด เนื่องจากว่า ทางอาจารย์เลย์ต้องสอนในฝั่งของรถ Adventure ทั้งหมดเลย ซึ่งตอนที่เรียนทางอาจารย์เข็มได้บอกว่า ที่สอนแต่ละจุดคือ ไฮไลท์ ที่ใช้แข่งจริงทั้งหมด (เหรอออออ)

 

 

หลังจากที่พวกเราได้เรียนการขับขี่ไปแล้ว ก็ได้เวลาที่ต้องแบ่งทีมการแข่งขัน ซึ่งใช้การจับฉลาก ทั้งหมด ซึ่งทีมของผมก็จะมี พี่วิน Cycle Road แทน Moto Cross และผมเอง ถือว่าเป็นทีมที่แข็งเลย เพราะว่าทั้งสองคนมีประสบการณ์ด้านการขับขี่ทางฝุ่นมา แต่ผมยังไม่เคยลงแข่งขันในทางฝุ่นซึ่งครั้งนี้บอกได้เลยว่าเป็นครั้งแรกเลย และที่วางแผนกันมาคือ ให้ผมเป็นไม้แรกของทีม เอาซะตื่นเต้นเลยครับ 555+ เพราะไม้แรกของทีมพี่ๆที่เหลือนั่นก็คือ พี่ตู่ RiderClubMag พี่หว่อง Just Ride It พี่แบงค์ It my Ride แต่ละคนเรียกได้ว่าเก๋าๆทั้งนั้น เมื่อเข้าสู่วันที่เราต้องแข่งขันกัน บอกได้เลยว่าใจสั่นมากๆ เพราะไม่เคยแข่งในลักษณะแบบนี้เลย เพราะเป็นแบบ Enduro 3 Hours ตอนนั้นคิดในใจ เอาหวะ แค่เอาตัวเองให้รอดพอ เพราะยางที่ใส่กับรถมามันเหมาะกับสภาพแฟล๊ตแทร็กมากกว่า เมื่อวานก็ไม่ได้ใช้รถคันที่ต้องแข่งเรียกซะด้วย ไหวเท่าที่ไหว พอปล่อยตัวปุ๊ป พี่ตู่ RiderClubMag ได้โฮล์ช๊อตไป ตามมาด้วยพี่แบงค์ It My Ride คนที่ 3 ก็คือผม และพี่หว่อง Just Ride It ปิดท้าย

 

 

ผ่านโค้งแรกไป ผมได้ยกลึกไปหน่อย รถเสียอาการ โชคดีที่พี่แบงค์เข้ามาสอดด้านข้างพอดี เลยได้รถแก้ค้ำไว้ไม่ให้ล้ม คิดในใจ เขร้...ยางแฟล๊ตแทร็กเล่นละ แต่พอหลังจากผ่านไปได้สักพัก เห้ย ยางที่ใส่มามันก็ไม่ได้เร็วร้ายนะ ขี่ได้สบายๆเลย อาจจะมีกรวดลอยที่ทำให้เป๋ไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้เสียอาการเยอะเท่าไหร่ พอถึงเนินสูงน่าจะเฉียง 45 องศาได้ รถไต่ขึ้นสบายๆ เอาเว้ย รถมันไปได้คนต้องได้แหล่ะ  พอลงเขามาพี่แบงค์ It my Ride  ล้ม พี่ตู่ RiderClubMag ขึ้นไปนำ ผมตามมาแบบติดๆ จนพี่แบงค์ It my Ride  ตามมาติดรถผมอีกรอบ พอมีจังหวะ ที่เหลืออีกนิดหน่อยที่คิดว่าจะแซงพี่ตู่ RiderClubMag ผมเลยเลี้ยวเพื่อแซง แต่ ว่าดัน แซงไม่พ้นซะงั้น ติดกับพี่ตู่กลางเนินซะ ซึ่งกำลังรถ+ กับยาง มันไม่สามารถขึ้นเนินที่มันชันขนาดนั้นได้เพราะมันเป็นดินร่วน ยิงเร่งล้อยิ่งฟรีทิ้ง จึงทำให้ต้องถอยลงเนินแล้วเร่งขึ้นไปใหม่ ในใจคิดว่าคงไม่ทันพี่แบงค์ It my Ride กับพี่ตู่ RiderClubMag แล้วแน่ๆ พอผ่านรอบแรงไปได้คิดในใจเลยว่า อีก2 รอบจะรอดไหมเนี่ย ก็เริ่มเร่งไปเรื่อยๆเพราะกลัวไม่ทันกับพวกพี่ ผ่านไปสักพัก ผมก็ได้ติดกับพี่ตู่ RiderClubMag อีกครั้ง และครั้งนี้ผมจี้ตูดพี่แกไปถึงบ่อน้ำ ซึ่งทางของบ่อน้ำเองแคบพอสมควร เรียกว่าเป็นทางเดินเลยดีกว่าครับ สองข้างซ้ายขวาบ่อน้ำ มีนักประดาน้ำรออยู่ ความลึกของบ่อผมบอกได้เลยว่าไม่รู้ว่าลึกเท่าไหร่ แต่นักประดาน้ำลอยคอรออยู่เลยทีเดียว 

 

 

ใกล้จะขึ้นจากทางเดินเท้า พี่ตู่ RiderClubMag พลาดล้มลงไป ซึ่งผมคิดในใจเขร้... เกือบหนีบหัวแก ผมก็ได้ขี่ไปเรื่อยๆจนกระทั้งครบ 3 รอบ ก็ได้เปลี่ยนแทน Moto Cross ซึ่งเป็นไม้ที่ 2 ซึ่งทีมของผมเองเป็นทีมเดียวที่ทุกคนในทีมได้ขี่ครบวนไม้ได้คนละ2ครั้ง จึงทำให้รอบขี่เยอะกว่าทีมพี่ๆท่านอื่น จากที่ผมได้สัมผัสมาแล้ว พบได้ว่า D-Tracker 150 ที่ใส่ยางแฟล็ตแทร็กได้ขับขี่ในสภาพถนนที่เรียกได้ว่า Enduro แล้ว พิสูจน์ได้ว่า กำลังเครื่องยนต์หรือตัวรถเอง ผ่านอุปสรรค ไปได้สบายๆ ไม่ว่าจะเป็นทางชัน หรือทางฝุ่น หินลอย กรวดใหญ่ๆผ่านไปได้สบายๆมากเลย ก็เหลือแต่สภาพคนขี่นี่แหล่ะครับที่ต้องไปให้ถึงกับรถ  จบการแข่งขันทีมผมได้ที่ 1 ซึ่งมันทำให้ผมได้รู้เลยว่ารถมันไม่ได้ของมันถึงจะเกิดมาเพื่อทางเรียบไม่ได้ลุยมาก แต่งานนี้ลุยแบบหนักหน่วย รถไปได้สบายๆไม่ต้องห่วงเลย หากได้โช๊ก
หน้าหลังดีๆรับรองได้เลยว่ามันส์แบบสุดๆอย่างแน่นอน 

 

 

ขอขอบคุณทาง Kawasaki มากๆเลยครับที่จัดกิจกรรมดีๆให้พวกเราได้สนุกกัน ขอขอบคุณที่ Golf Riding  ที่ดิลงานรวมไปถึงจัดการทุกอย่างให้พวกเราจนได้ขี่กันในครั้งนี้ ขอขอบคุณพี่สื่อที่ร่วมสนุกกัน และขอขอบคุณเพื่อนร่วมทีม ที่สนุกไปด้วยกัน

 

ขอขอบคุณรูปภาพจาก ไบค์เกอร์เจอนี่, พี่โต๋ นักเลงมอเตอร์ไซด์