เตรียมพบกับ Lifan KTP200 กับรถแอดแวนเจอร์พิกัด 200 ซีซี ในราคา 7x,xxx บาท

ทำไมผมถึงให้ความสนใจเจ้า​ Lifan KTP200 รุ่นนี้ ไม่ได้อยู่ที่เทคโนโลยีอะไร หรือ ออฟชั่นพิเศษอะไรที่เหนือกว่ารถในแบรนด์ตลาดบ้านเราเลย บางคนแค่เห็นยี่ห้อ Lifan , GPX , Ryuka หรือ Stallions ก็จะร้องยี้ไว้ก่อน ไม่ได้ว่าอะไรนะครับ เพราะคนเรามีทุนในกระเป๋าที่ต่างกัน และมีความชอบในรถแต่ละรุ่นที่แตกต่างกันครับ บางคนไม่เคยได้ขี่ไม่เคยได้ใช้ก็ร้องยี้กันไปก่อนแล้วก็มีถมเถไป

โดยส่วนตัวได้มีโอกาสได้พูดคุยกับผู้บริหารของทาง GPX และ Stallions อยู่บ่อยครั้งมาก และสิ่งที่ผมมักจะพูดกับทางผู้บริหารเสมอๆก็คือ อยากเห็นเครื่องยนต์ที่พัฒนาจากไทยเราเอง ถึงจะผลิตที่จีน เวียดนาม หรือที่ไหนก็ตาม ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ได้มีได้ในเร็วๆนี้แน่ แต่ผมเชื่อว่าสักวันผมจะเห็นได้จาก 2 แบรนด์นี้เป็นแน่แท้ และในเมื่อเรายังไม่สามารถออกแบบและผลิตเครื่องยนต์เองได้ การหยิบเอาเทคโนโลยีที่มีขายอยู่แล้ว มายัดใส่รถในแบรนด์ของตัวเองเพื่อนำมาขาย ผมเองก็อยากเห็นบล็อคเครื่องใหม่ๆ หรือเทคโนโลยีที่ทัดเทียมกับแบรนด์ตลาดที่มีอยู่ แน่นอนสิ่งที่เกิดขึ้นมาให้เห็นช่วงปีสองปีที่ผ่านมาก็คือ การเริ่มมีระบบหัวฉีด เข้ามาให้เห็นกันแล้วในหลายๆรุ่น อาจจะดีหรือมีปัญหาบ้างก็คงเพราะยังใหม่และหวังว่าอนาคตต่อไปปัญหาคงจะค่อยๆลดลงจนกลายเป็นมาตรฐานที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

เกริ่นมาซะนานแล้วเกี่ยวอะไรกับ Lifan KPT200 กับรถแนวแอดเวนเจอร์พิกัด 200 ซีซี รุ่นนี้ที่ทำให้ผมรู้สึกสนใจ ก็เพราะผมเคยอยากได้บล๊อคเครื่องระบายความร้อนด้วยน้ำ มาทำการตลาดกับโมเดลใหม่ๆจากรถแบรนด์ไทยอย่าง GPX และ Stallions นั่นเอง แต่ทาง Lifan กลับนำเข้ามาทำการตลาดในบ้านเราก่อนทั้ง 2 ค่าย นั่นเลยทำให้ผมสนใจรถรุ่นนี้และอยากจะได้มีโอกาสได้ทดสอบฟิลลิ่งของรถระบายความร้อนด้วยน้ำในพิกัด 200 ซีซี จากเครื่องยนต์จากจีนดูบ้าง ซึ่งแน่นอนจากข้อมูลของ Lifan รถรุ่น KPT200 รุ่นนี้บอกว่าได้มีการทดสอบในระยะทางกว่า 20,000 กิโลเมตร ในการขับขี่ท่องเที่ยวมาแล้ว

เรามาดูสเปคโดยคร่าวๆโดยที่เครื่องยนต์นั้นเป็นขนาด 198 cc 4 จังหวะสูบเดี่ยว 6 เกียร์สปีด จ่ายน้ำมันด้วยหัวฉีด ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังเครื่องยนต์ที่ 17hp/8000 รอบต่อนาที กำลังอัดที่ 11: 1  ถังน้ำมันประมาณ 13 ลิตร ส่วนโช้คหน้าเป็นอัพไซด์ดาวน์  โช๊คหลังเป็นโมโนโช๊ค เรือนไมล์ดิจิตอล ซึ่งตัวรถจะมีน้ำหนัก ที่ 150 กิโลกรัม ความสูงที่นั่ง 30.5 นิ้ว ฐานล้อมีความกว้าง 52.4 นิ้ว ระบบเบรค เป็น ดิสเบรคทั้งหน้าและหลัง ยางหน้าขนาด 90/90-17 ส่วนยางหลัง 120/80-17

ซึ่งแน่นอนสิ่งที่อยากจะทราบนั่นก็คือประสิทธิภาพที่ได้จะดีกว่าเครื่องบล๊อคอากาศที่มักมีปัญหากันหรือไม่ นั่นจึงทำให้ผมสนใจ KPT200 มากกว่ารุ่น Hunter 125 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ซะอีก ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าหากได้มีโอกาสทดสอบแล้วจะได้ใจมากน้อยแค่ไหน และผมก็คาดหวังว่าจะมีบล๊อคเครื่องระบายความร้อนด้วยน้ำกับโมเดลใหม่ๆของทั้ง GPX และ Stallions ออกมาให้เห็นในเร็ววันนี้นะครับ