เมื่อ YAMAHA M-SLAZ 150 ซีซี โดนทดสอบแบบจัดหนัก!!

     สำหรับสเปคของ Yamaha M-SLAZ หลายๆคนคงได้ติดตามจากหลายๆแห่งมาแล้ว ซึ่งหลังจากนี้เรามาพูดถึงการทดสอบขับขี่กันอย่างเดียวก็พอ โดยทาง Mocyc.com ได้รับรถ Yamaha M-SLAZ เพื่อมาทดสอบ ซึ่งเป็นรถในแนว Naked พิกัด 150 ซีซี ที่ออกแบบมาอย่างลงตัว พร้อมกับออฟชั่นที่เรียกว่าจัดเต็มจริงๆ ซึ่งก็ได้เวลาที่จะเอา M-SLAZ ไปทดสอบแบบจัดหนักแล้ว

     สัมผัสแรกอาจจะรู้สึกว่าแฮนด์กว้างและค่อนข้างอยู่ใกล้ตัว ซึ่งเหมือนกับรถในแนวโมตาดยังไงยังงั้น เชื่อเลยว่าคนที่ลองคร่อมครั้งแรกต้องรู้สึกไม่ชินแน่นอน แต่เมื่อได้ลองขับขี่จะรู้สึกว่าเป็นการขับขี่ที่คล่องตัว พับรถได้ไว พลิกซ้ายขวาได้อย่างคล่องตัว ทั้งในเมืองและในการออกทริป จากท่าทางการขับขี่ที่ออกแนวโมตาดทำให้เวลาซัดไปบนทางฝุ่นหรือทางขรุขระสามารถกดไปได้เต็มๆ โดยที่รถแทบจะไม่ออกอาการให้เห็น

คลิปรีวิวสเปคโดยรวมของ YAMAHA M-SLAZ

     การขับขี่ไกลๆไม่เมื่อย เพราะท่าขับขี่ที่ไม่ต้องก้มตัวมาก อีกทั้งเวลาเจอทางขรุขระมากๆยังสามารถยืนขี่รูดไปได้อย่างสบายๆ ช่วงท้ายดูสั้นแต่เวลามีคนซ้อนก็ไม่ได้รู้สึกว่าเกะกะ หรือ รบกวนคนขี่มากนัก ถือว่านั่งสบายทั้งคนขี่และคนซ้อน อาจจะรู้สึกแค่ว่าพักเท้าคนขี่และคนซ้อนใกล้กันไปหน่อย บางทีจะรู้สึกว่าเท้าคนซ้อนมาโดนแถวๆข้อเท้าของคนขี่ได้บ้างบางช่วงเวลาก็เท่านั้น

     อัตราเร่งช่วงต้นดีเลยสำหรับ M-SLAZ ทางบนเขานี่เรียกว่ามีกำลังมาให้ตั้งแต่รอบต่ำๆ ไม่ต้องรีดรอบมาก และความเร็วสูงสุดจากการทดสอบด้วยน้ำหนักตัวคนขี่ 60 กก. โดยไม่ได้หมอบ อยู่ราวๆ 130 กม./ชม. อัตราเร่งในช่วง 0-100 ถือว่ามาได้ติดมือดีมาก ซึ่งจากการทดสอบการบริโภคน้ำมันของ M-SLAZ ในการขับขี่บนเส้นทางลาดชันและความเร็วสูงอยู่ที่ประมาณ 41 กม./ลิตร และจากการทดสอบการขับขี่ในเมืองอยู่ที่ประมาณ 46 กม./ลิตร ซึ่งถือว่า M-SLAZ ทำได้ดีเลยทีเดียว

     ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบอัพไซด์ดาวน์ อาจจะดูนิ่มๆเวลาโยก แต่เมื่อนำไปใช้งานกลับพบว่าให้การทรงตัวที่ดี ทั้งในทางเรียบ หรือแม้แต่ทางขรุขระที่รองรับการกระแทกได้ดี และไม่มีเสียงดังออกมาให้เห็นเลย

     โช๊คหลังแบบโมโนโช๊คมีกระเดื่องทดแรง และสวิงอาร์มหลังมองเผินๆจะเหมือน R15 แต่จริงๆแล้วสวิงอาร์มหลังของ M-SLAZ เป็นแบบ อลูมินัมไดแคส ส่วนของ R15 จะเป็นแบบกราวิตี้ (เทหล่อ) ซึ่งทำให้สวิงอาร์มของ M-SLAZ มีน้ำหนักที่เบาและแข็งแรง ซึ่งจากการทดสอบถือว่ารองรับการเข้าโค้งได้ดี และขี่รูดไปบนทางขรุขระได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งบวกกับล้อแม็กและยางขนาดใหญ่จึงทำให้ขับขี่ได้มั่นใจมากขึ้นทั้งทางเรียบและทางขรุขระ

     ระบบเบรคต้องมีการใช้งานไปสักระยะเพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น โดยทำการทดสอบไปราวๆ 200 กม. ระบบเบรคเริ่มเข้าที่มากขึ้น โดยเบรคหน้าถือว่าทำงานได้ดีทั้งการกรอเบรคหรือการกดเบรคแรงๆก็ไม่ออกอาการเซ ซึ่งน่าจะได้ผลพวงมาจากโช๊คอัพไซด์ดาวน์อีกทางหนึ่ง ส่วนเบรคหลังรู้สึกต้องใช้แรงกดพอสมควรหรืออาจจะต้องใช้งานไปอีกสักระยะหนึ่งก็เป็นได้

     เรือนไมล์ในแบบ ฟูลเน็กกาทีฟ แอลซีดี โดยสามารถปรับระดับความเข้มของแบคกราวด์ได้ ซึ่งเป็นเรือนไมล์ขนาดเล็กที่มีมาตราวัดมาให้ครบๆ แต่ไม่มีตัวเลขบอกเกียร์ มาตราวัดน้ำมันในขีดแรกจะวิ่งได้ร่วม ร้อยกว่ากิโลเมตร ส่วนขีดที่เหลือจะค่อนข้างลงไวกว่าขีดแรกมากและเมื่อลงถึงขีดสุดท้ายก็วิ่งมาแล้วร่วม 300 กิโลเมตร

     ไฟหน้าแบบ LED ที่มีการออกแบบในแนวของ Naked ทำให้หน้ากากและโคมไฟไม่ใหญ่มากนัก องศาความสว่างด้านข้างจึงอาจจะไม่กว้างเท่ารถในสไตล์สปอร์ต ทำให้มุมมองในทางโค้งในช่วงกลางคืนแคบกว่าปกติ ส่วนไฟสูงนั้นจะพุ่งออกตรงกลางมากกว่าด้านข้าง

     โดยรวมถือว่า M-SLAZ เป็นรถที่ขี่สนุกได้ทั้งการขับขี่ทางเรียบ และ การที่จะโดดลงไปวิ่งในทางฝุ่นก็สามารถดึงเอาความสนุกมาให้ผู้ขับขี่ได้ดีทีเดียว สำหรับสนนราคาของ M-SLAZ อยู่ที่ 89,500 บาท โดยเข้าไปสัมผัสตัวจริงของ M-SLAZ ได้ที่ยามาฮ่าสแควร์ ทั่วประเทศ

พบกับคลิปทดสอบ YAMAHA M-SLAZ เร็วๆนี้!!