มอเตอร์ไซค์สปอร์ต พิกัด 300 ซีซี ตัวไหนน่าสนใจ

     หากจะพูดถึงรถมอเตอร์ไซค์ในแบบสปอร์ต พิกัด 300 ซีซี ในบ้านเราตอนนี้คงจะหนีไม่พ้นการสู้กันระหว่างค่าย Honda ก็คือ CBR300R และจากค่าย Kawasaki ก็คือ Ninja 300 แต่ตอนนี้ก็จะมีอีกหนึ่งค่ายที่ลงมาฟาดฟันกับทั้งสองรุ่น ก็คือ Yamaha R3 ซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปสร้างความฮือฮาได้เป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นที่น่าจับตามองในเรื่องแผนการตลาดของแต่ละรุ่นว่าจะทำให้ผู้บริโภคสนใจและเลือกที่จะสอยรุ่นไหนไปไว้เป็นเจ้าของกัน

เราลองมาดูสเปคของทั้ง 3 รุ่นกันดูว่าแตกต่างกันมากน้อยขนาดไหน

 

     เครื่องยนต์ของ Yamaha R3 นั้นมีความจุอยู่ที่ 321cc โดยมากกว่า Kawasaki Ninja 300 อยู่ 26cc และมากกว่า Honda CBR300R อยู่ถึง 35cc โดย Yamaha R3 มีแรงม้ามากกว่า Kawasaki Ninja 300 อยู่ 3 ตัว และมีแรงม้ามากกว่า Honda CBR300R อยู่ 11 ตัว ซึ่งหากดูตามสเปคเครื่องแล้วเป็นที่แน่นอนเลยว่า Yamaha R3 นั้นน่าจะแรงกว่าใครเพื่อนแน่นอน  โดยในทั้ง 3 รุ่นนั้นเป็นเครื่องยนต์แบบ 6 เกียร์ทั้ง 3 รุ่น เรียกกันว่าเอาไว้ไล่รอบได้ตามความต้องการกันเลยทีเดียว

 

     ระบบกันสะเทือนหน้าทั้ง CBR300R และ Ninja300 เลือกใช้โช๊คหน้าขนาด 37มม. ส่วน R3 นั้นออกมาทีหลังสุด เลยเลือกใช้ขนาดโช๊คหน้าที่ใหญ่กว่าค่ายอื่นคือไปคบกับโช๊คหน้าขนาด 41มม.  ด้านระบบเบรคหน้านั้น R3 ให้ขนาดจานเบรคหน้าที่ใหญ่กว่าใครโดยให้ขนาดมา 298มม. ถัดมาก็จะเป็น CBR300R ให้มาขนาด 296มม. และ Ninja300 ให้มาขนาด 290มม. ส่วนด้านเบรคหลังนั้นให้ขนาดมาเท่ากันทั้ง 3 รุ่นคือขนาด 220มม.

 

     สำหรับขนาดยางนั้นทั้ง 3 รุ่นให้ขนาดล้อยางมาเท่ากันคือ ล้อหน้า 110/70 ขอบ 17 นิ้ว ส่วนล้อหลัง 140/17 ขอบ 17 นิ้วเช่นกัน เรียกได้ว่าเรื่องขนาดล้อยางกินกันไม่ลงจริงๆ

     ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง Ninja 300 ให้ความจุของถังมามากสุดก็คือ 4.5 แกลลอน รองลงมาก็คือ R3 มีความจุ 3.7 แกลลอน และน้อยสก็คือ CBR300R มีความจุ 3.4 แกลลอน โดยเมื่อทำการชั่งน้ำหนักกันแล้วนั้นทั้ง 3 รุ่นได้รุ่นที่เบาที่สุดก็คือ CBR300R กับน้ำหนัก 165กก. รองลงมาก็คือ R3 กับน้ำหนัก 167กก. และรุ่นที่หนักที่สุด Ninja 300 กับน้ำหนัก 174กก.

     สำหรับสิ่งที่กังวลค่อนข้างมากก็คือรถสูงมากแค่ไหน เพราะผู้ที่ต้องการซื้อรถหลายๆคนกังวลเรื่องความสูงของรถมาก เพราะกลัวขาไม่ถึง หรือคร่อมรถไม่ได้ โดยความสูงของทั้ง 3 รุ่นนั้นไม่ได้หนีกันมาก โดย CBR300R และ R3 ความสูงเบาะอยู่ที่ 30.7 นิ้ว ส่วน Ninja 300 สูงกว่าใครคือ 30.9 นิ้ว ซึ่งก็ถือว่าไม่ได้หนีกันมาก

 

     ด้านการขับขี่หรือท่านั่ง CBR300R จะให้ท่านั่งสบายทั้งคนขับและซ้อนกว่า โดยในรุ่น Ninja300 และ R3 ค่อนข้างจะออกแบบท่านั่งมาเรียกว่าเกือบเป็นรถลงสนามได้แล้วแต่ก็ดีตรงที่ไม่ค่อยต้านลมมาก เรื่องความสั่นของเครื่องยนต์ในรอบสูงๆ CBR300R อาจจะรู้สึกสั่นมากกว่า Ninja300 คงเป็นเพราะเครื่องยนต์ของ CBR300R เป็นแบบลูกสูบเดี่ยว แต่ก็เป็นปกติครับสำหรับรถระดับ 1 สูบ คงให้นิ่งในรอบสูงๆไม่ได้ แต่ข้อได้เปรียบคือ ต้นจะมาเร็วกว่า สำหรับรอบกลางและปลาย Ninja 300 จะทำได้ดีกว่า CBR300R เรียกได้ว่าใครที่ชอบความเร็วแล้ว Ninja 300 น่าจะเป็นคำตอบได้มากกว่า CBR300R แต่สำหรับ R3 ยังไม่ได้มีโอกาสได้ทดสอบจึงยังมาเล่าให้ฟังไม่ได้

     สนนราคาก็เป็นอีกปัจจัยที่เป็นตัวแปรในการเลือกซื้อมอเตอร์ไซค์สักคัน โดยสนนราคาที่ถูกสุดทั้ง 3 รุ่นก็เห็นจะเป็น CBR300R ซึ่งเปิดราคาที่ประมาณ 133,000 บาท และในรุ่น Ninja 300 นั้นราคาอยู่ที่ประมาณ 182,500 บาท และกับ R3 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่กี่วันมานี้เปิดตัวที่ประมาณ 160,000 บาท ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้ซื้อแล้วว่ารักชอบแบบไหน

     สำหรับผู้ที่สนใจซื้อรถบิ๊กไบค์ใหม่แต่ไม่มีเงินก้อน ปัจจุบันนี้สามารถขอสินเชื่อกรุงศรี บิ๊ก ไบค์ ได้จาก กรุงศรี ออโต้ แล้ว และยังได้รับข้อเสนอพิเศษต่างๆ เช่น อัตราดอกเบี้ยพิเศษ, ดาวน์น้อย, ไม่ต้องใช้ผู้ค้ำประกัน และรู้ผลอนุมัติสินเชื่อได้รวดเร็ว

     นอกจากนี้ ในงาน Bangkok Motorbike Festival 2015 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 28 ม.ค. – 1 ก.พ. 2558 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิร์ด ทางกรุงศรี ออโต้ ยังมีโปรโมชั่นพิเศษอีกด้วย คือ เมื่อสมัครสินเชื่อภายในงาน รับฟรี ร่มกรุงศรี ออโต้ มูลค่า 119 บาท พร้อมรู้ผลอนุมัติสินเชื่อภายในงาน เมื่อสมัครพร้อมเอกสารครบถ้วน โดย กรุงศรี ออโต้จะตั้งบูธอยู่ที่ชั้น 2 โซน Eden โซน C27,C28 

และหากสินเชื่อได้รับการอนุมัติ ก็จะได้รับฟรี บัตรเติมน้ำมัน ดังเงื่อนไขด้านล่างนี้

• บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 2,000 บาท สำหรับ Big Bike ขนาด 250 cc ขึ้นไป ราคาตั้งแต่ 400,000 บาทขึ้นไป

• บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 1,000 บาท สำหรับ Big Bike ขนาด 250 cc ขึ้นไป ราคาตั้งแต่ 100,000 ถึง 399,000 บาท

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.krungsriauto.com/โปรโมชั่น/2049

 

เอกสารที่จะต้องใช้ประกอบในการขอสินเชื่อ มีดังนี้

1. บัตรประชาชนตัวจริง พร้อมสำเนา จำนวน 3 ชุด

2. ทะเบียนบ้านตัวจริง พร้อมสำเนา จำนวน 3 ชุด

3. เอกสารแสดงแหล่งที่มาของรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองรายได้ (ฉบับล่าสุด หรือย้อนหลังไม่เกิน 2 เดือน

4. สำเนาบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ / ประจำ หรือกระแสรายวัน ย้อนหลัง 6 เดือน

รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.krungsriauto.com/ผลิตภัณฑ์ของเรา/กรุงศรี-มอเตอร์ไซค์

 

งานนี้ห้ามพลาด!! และที่สำคัญอย่าลืมพกเอกสารต่างๆ ให้ครบก่อนไปงาน Bangkok Motorbike Festival 2015