ลองขี่ฮอนด้า 650Series คุมง่าย นุ่มนวล คล่องตัว

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 เมษายน 2557 16:52 น.

 

       หลังปล่อยให้ลูกค้าที่จับจองบิ๊กไบค์ประกอบไทยรุ่นที่สอง สำหรับตระกูล "" ""ซีบี 650 เอฟ และซีบีอาร์ 650 เอฟ เป็นรถสไตล์เน็กเก็ตไบค์และสปอร์ตแบบฟูลแฟริ่ง สนนราคา 285,000 บาท และ 300,000 บาท ตาม ลำดับ ซึ่งใช้พื้นฐานเครื่องยนต์เดียวกัน แบบ 4 สูบเรียง DOHC ขนาดความจุ 649 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังสูงสุด 87 แรงม้าที่ 11,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 63 นิวตัน-เมตรที่ 8,000 รอบต่อนาที จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด PGM-FI ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ 6 สปีด
       
       โดยรถทั้งสองรุ่นเน้นใช้งานบนถนนได้อย่างคล่องตัว ตำแหน่งแฮนด์บังคับแบบเปลือยอยู่สูงกว่าแบบสปอร์ตเล็กน้อย รวมถึงระยะห่างจากพื้นถึงจุดต่ำสุดของตัวรถก็สูงกว่าเช่นกัน ขณะที่อุปกรณ์ส่วนควบอื่นๆ ยกเว้นชุดไฟหน้าและแฟริ่งด้านข้างที่แตกต่าง นอกนั้นใช้พาร์ทร่วมตามแบบฉบับการแตกหน่อรถในตระกูลเดียวกันทุกประการ ซึ่งจุดที่โดดเด่น ได้แก่ เรือนวัดความเร็วแบบดิจิตอล, กุญแจนิรภัยฝังชิพ H.I.S.S. (Honda Ignition Security System), ช่วงล่างด้านหลังเป็นสวิงอาร์มอลูมิเนียม และระบบความปลอดภัยติดตั้งเบรก ABS รอบคัน

 

       ด้านการทดลองขี่ด้วยจำนวนผู้ร่วมกิจกรรมมีมากกว่า 50 คน แต่จำนวนรถทดสอบที่ค่ายปีกนกเตรียมไว้มีรุ่นละ 6 คัน หรือรวมทั้งหมด 12 คัน จึงต้องมีการจัดลำดับก่อนหลังและจำกัดการสัมผัสสมรรถนะหนึ่งคนต่อหนึ่งรุ่น เพียง 5 รอบ เท่านั้น
       
       สำหรับผู้เขียนเริ่มต้นขึ้นคร่อมในสไตล์เน็กเก็ต ด้านการควบคุมระยะห่างระหว่างแฮนด์บาร์กับช่วงแขน ดูเหมือนจะต้องยืดออกไปมากกว่าคู่มวยตรงรุ่นอย่าง อีอาร์-6 เอ็น (ER-6n) ของค่ายสีเขียว ส่วนพักเท้ากับตำแหน่งของลำตัวผู้ขี่ค่อนข้างตั้งตรงอยู่ในองศาเดียวกัน ด้านเบาะชิ้นเดียวแบ่งระดับสองชั้นรองรับน้ำหนักได้เต็มสรีระ ซึ่งคุณสมบัติทั้งหมดส่งผลให้ท่านั่งสบาย บังคับรถได้ง่ายและมีความคล่องตัวขณะขี่ผ่านกรวยไพลอนที่ทีมงานของฮอนด้าจัด รูปแบบการทดสอบไว้

 

       เมื่อครบรอบการขี่ย้ายบั้นท้ายมาควบโฉมสปอร์ตดูบ้าง ท่านั่งไม่ได้แตกต่างจากเดิมมากนัก แม้ตำแหน่งแฮนด์บังคับจะต่ำลงก็ตาม เพราะเป็นแบบจับยึดที่โช้กหน้า แต่ทั้งนี้ยังวางอยู่บนแผงคอ ซึ่งทำให้ผู้ขี่ไม่ต้องก้มหลังมากนัก เรียกว่าท่านั่งยังคงเป็นแบบกึ่งสปอร์ตทัวริ่งมากกว่า
       
       ส่วนความแรงของขุมพลังเครื่องยนต์บล็อกนี้ ด้วยพื้นที่ของสนามทดสอบมีจำกัด เบื้องต้นจึงได้สัมผัสเพียงความนุ่มนวลของการส่งกำลังที่ไหลลื่น ขณะที่อัตราเร่งก็ไม่ฉุดกระชากหรือมีความรุนแรงมากนัก ทำให้การคุมคันเร่งค่อนข้างง่าย ไม่ว่าจะทางซิกแซก โค้งแคบหรือกว้าง โกลบอลโมเดลทั้งสองรุ่นนี้ก็ขี่ผ่านได้อย่างคล่องตัว

 

ที่มา : http://www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9570000039916