ตั้น-สลาตัน สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ คว้ารองแชมป์ | yamaha,all japan,big bike,thailand racing

 

                    เดินทางเข้าสู่ช่วงครึ่งฤดูกาลหลังแล้ว สำหรับการแข่งขัน “MFJ Superbike All Japan Road Race Championship 2013” ศึกชิงความเป็นจ้าวแห่งความเร็วสองล้อของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนักแข่งไทยลงบู๊กับนักแข่งเจ้าถิ่นในนาม “ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม” แบบเต็มฤดูกาลเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันแล้ว โดยในปีนี้ “เดชา ไกรศาสตร์” แชมป์ MFJ All Japan Road Race Championship 2012 รุ่น ST600 ขยับขึ้นมาแข่งขันในรุ่น J-GP2 สนามนี้เป็นการชิงชัยสนามที่ 6 ของรายการนี้ แต่เป็นการแข่งขันเก็บคะแนนสะสมเป็นสนามที่ 4 ของรุ่น J-GP2 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-25 สิงหาคม 2556 ณ สนามซูโก้ เซอร์กิต ที่ตั้งอยู่ในเมืองเซนได จังหวัดมิยากิ ที่อยู่ห่างไปเกือบ 400 กม. ทางตอนเหนือของกรุงโตเกียว โดยสนามแห่งนี้ถือว่าเป็นสนาม Home Track ของทีมยามาฮ่า โดยสนามซูโก้ เซอร์กิต นี้ เป็นสนามที่ลงทุนโดยยามาฮ่ามอเตอร์ ซึ่งเป็น 1 ใน 6 สนามแข่งระดับอินเตอร์ของประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งยังเป็นสนามที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ ความยาวของสนามรวมทั้งสิ้น 3,737.50 เมตร ความกว้างของแทร็คอยู่ที่ 10-12.50 เมตร มีโค้งทั้งหมด 11 โค้ง ความยาวทางตรงสุดของสนาม 704.50 เมตร ไฮไลท์ของสนามแห่งนี้อยู่ที่เนินที่มีความชัน 10% ในช่วงก่อนเข้าโค้งสุดทางก่อนเข้าเส้นชัย ทำให้นักแข่งเหมือนกับการขี่ขึ้นฟ้าเพราะจะไม่เห็นทางข้างหน้า และที่สนามซูโก้ เซอร์กิต นักแข่ง และทีมแข่งหลายๆ ทีมจะใช้เป็นสนามซ้อม เพราะสนามนี้เป็นสนามที่ต้องใช้เทคนิคการขับขี่ที่ค่อนข้างสูง เป็นสนามแข่งที่ขับขี่ยากมากที่สุดของญี่ปุ่น

                    สำหรับการแข่งขันในสนามนี้ “เดชา ไกรศาสตร์” สามารถออกสตาร์ทได้อย่างดีเยี่ยมทะยานขึ้นมานำหน้านักแข่งญี่ปุ่นอีก 21 คัน ทะยานเป็นจ่าฝูงได้ตั้งแต่วินาทีแรก พร้อมยืดระยะทิ้งห่างจากนักแข่งญี่ปุ่นทันทีตามแผนที่วางไว้ การขยับหนีของ “ตั้นสลาตัน” ทำให้นักแข่งญี่ปุ่นอย่าง โนซะเนะ โกตะ (หมายเลข 31) ขยับไล่ตามขึ้นมา แต่เป็นนักแข่งเพียงคนเดียวที่ไล่ตามมาจนเข้ามาใกล้ในปลายรอบที่ 2 และในรอบที่ 3 โนซะเนะ โกตะ (หมายเลข 31) ก็ขยับแซง “เดชา ไกรศาสตร์” ขึ้นมา แต่ “เดชา ไกรศาสตร์” ก็พยายามไล่ตามติด จนถึงรอบที่ 15 นักแข่งคู่หน้าต้องเจอรถน็อครอบ “เดชา ไกรศาสตร์” ไปติดรถน็อครอบ จนทำให้ระยะห่างจากคู่แข่งขยับอออกไป แต่ “เดชา ไกรศาสตร์” ก็สามารถรักษาตำแหน่งสำคัญนี้ไว้ได้ จนเข้าเส้นชัยคว้าโพเดี้ยมแรกในตำแหน่งที่ 2 สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยได้สำเร็จ จากผลงานการคว้าตำแหน่งรองแชมป์ในสนามนี้ ทำให้ “เดชา ไกรศาสตร์” เก็บได้อีก 22 แต้มทำให้มีคะแนนสะสมประจำปีเพิ่มขึ้นเป็น 51 คะแนน ขยับตำแหน่งขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 5 ของตารางคะแนนสะสม ในขณะที่เหลือการแข่งขันอีก 3 สนาม ต้องมาลุ้นกันว่า “เดชา ไกรศาสตร์” นักแข่ง “ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม” จะสามารถทำอันดับติด 1 ใน 3 ของการแข่งขันรุ่น J-GP2 ที่นักแข่งไทยเข้าร่วมการชิงชัยในรุ่นนี้เป็นปีแรกได้สำเร็จหรือไม่

                    ทั้งนี้ “เดชา ไกรศาสตร์” ได้กล่าวว่า “การจบตำแหน่งที่สองก็ถือว่าไม่เลวร้าย เพราะเราวางแผนไว้ว่าสนามนี้เราจะต้องขึ้นโพเดี้ยม ออกสตาร์ทที่ 2 จบในตำแหน่งที่ 2 ก็ถือว่าโอเค แต่ที่ผิดเป้าหมายไปหน่อยตรงที่ในช่วง 5 รอบสุดท้ายผมติดรถน็อครอบทำให้คู่แข่งยืดออกไป อีกทั้งเบรกหลังก็มีปัญหา ต้องใช้เบรกหน้ามาก ทำให้มีปัญหากับการเลี้ยวเลยต้องเบาลงมา อีกทั้งก็ดูว่าข้างหลังก็ห่างมากก็เลยไม่บวกมาก ประคองเข้าที่ 2 ผมก็ขอขอบคุณแฟนๆ ที่ติดตามเชียร์และให้กำลังใจตลอดเวลา สนามนี้ก็ดีใจมากที่เราขึ้นโพเดี้ยมสำคัญได้ ขอขอบคุณทีมงานทุกๆท่านด้วยครับ”

                    คุณกรธัช แก่นจันทร์ดา ผู้อำนวยการทีม “ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม” กล่าวหลังจบการแข่งขันว่า “ก่อนการแข่งขันเราวางแผนว่าจะต้องยืนบนโพเดี้ยม ซึ่งก็เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ถือเป็นสเต็ปแรกที่เราพัฒนาขึ้นมา ก็ถือเป็นความพอใจในระดับนึง ซึ่งเราก็ต้องพัฒนาตัวรถต่อให้ดีขึ้นกว่านี้อีกในสนามต่อๆ ไปครับ”