ร่าง พ.ร.บ.จราจรใหม่ !! ผิดกฎ ให้ตัดแต้มใบขับขี่หากแต้มหมด...ห้ามขับ |

 

สนช. ผ่านร่างแก้ไข พ.ร.บ.จราจรทางบก ให้ตัดแต้มใบขับขี่ เมื่อผู้ขับขี่ทำผิดกฎ และให้สิทธิ์เจ้าหน้าที่ในการระงับ หรือยินยอมให้ขับขี่ตามสมควร เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน เตรียมส่ง ครม. พิจารณาต่อ

 

เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562 เวิร์คพอยท์นิวส์  รายงานว่า ในที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ทางคณะกรรมาธิการฯ ได้ส่งร่าง พ.ร.บ. จราจรทางบก ที่พิจารณาแล้วเสร็จให้ สนช. พิจารณาเพื่อเห็นสมควรประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป สาระสำคัญคือ เห็นสมควรแก้ไขพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ว่าด้วยหลักเกณฑ์การออกใบสั่งสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจราจร ที่กำหนดให้ใช้การบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับขี่ รองรับการใช้ใบขับขี่แบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงกำหนดมาตรการที่เกี่ยวกับการดูแลและบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบกให้มีประสิทธิภาพ

 

 

หลักเกณฑ์และข้อกำหนดในประเด็นการตัดคะแนนความประพฤติของบุคคลที่ฝ่าฝืนหรือทำผิดกฎจราจร จะรวมถึงการเพิ่มบทบัญญัติให้เจ้าหน้าที่สามารถระงับการใช้รถ หรือยินยอมให้ผู้ขับขี่ขับรถได้ อย่างไรก็ตาม สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติมีความกังวลกรณีนี้อาจเป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ทั้งนี้กรรมาธิการฯ ชี้แจงว่า หลังจากร่างกฎหมายมีผลบังคับใช้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จะต้องออกข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับการตัดคะแนนผู้ขับขี่ให้ชัดเจน 

 

 เบื้องต้นร่างข้อกำหนดระบุให้ผู้ขับขี่มีคะแนน 12 คะแนน ตัวอย่างหลักเกณฑ์การตัดคะแนน เช่น การฝ่าไฟแดง ตัด 1 คะแนน หรือการไม่หลีกทางให้รถพยาบาลฉุกเฉิน ตัด 3 คะแนน เมื่อคะแนนถูกตัดจนหมด ผู้ขับขี่จะถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ ถ้าหากอยากได้แต้มคืน ก็จะต้องเข้ารับการอบรมโดยมีค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ก่อนที่ สตช. จะออกข้อกำหนดต่าง ๆ นั้น จะมีการจัดเวทีรับฟังความเห็นประชาชนด้วย

 

 

สำหรับการระงับการใช้รถ หรือยินยอมให้ผู้ขับขี่ขับรถได้นั้น กรรมาธิการฯ ชี้แจงว่า เป็นมาตรการที่สอดคล้องกับใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่สามารถยึดใบขับขี่ลักษณะดังกล่าวได้ ดังนั้นกรณีที่พบผู้ขับขี่มีอาการมึนเมา หรือมีความเสี่ยงจะเกิดอันตรายกับผู้ใช้รถใช้ถนนหรือประชาชน ร่างกฎหมายจึงเขียนให้สิทธิเจ้าหน้าที่สามารถระงับการใช้รถบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยงดังกล่าวเป็นการชั่วคราวได้ และหากบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยงนั้นพ้นจากภาวะที่จะก่ออันตราย เจ้าหน้าที่จึงจะสามารถปล่อยให้ขับรถต่อไปได้

               ด้าน นายสมชาย แสวงการ สมาชิก สนช. ในฐานะกรรมาธิการฯ เสียงข้างน้อย ที่ขอแก้ไขมาตรา 160 จัตวา ว่าด้วยการให้นิติบุคคลที่เป็นผู้ให้เช่ารถ ชำระโทษปรับ หรือรับโทษแทนผู้เช่ารถที่ฝ่าฝืนหรือทำผิดกฎจราจร กรณีที่ผู้เช่ารถไม่ชำระค่าปรับหรือรับโทษตามกฎหมายนั้น กรรมาธิการฯ เสียงข้างมาก ยังยืนยันว่า ไม่สามารถเพิ่มเนื้อหาดังกล่าวได้ เพราะเนื้อหาขัดกับหลักการ และตามกฎหมายไม่สามารถบังคับให้ผู้อื่นชำระโทษปรับหรือรับโทษแทนบุคคลที่กระทำผิดได้

               ประเด็นดังกล่าวทำให้ที่ประชุม สนช. มีความเห็นไม่ตรงกันและไม่สามารถหาข้อยุติได้ ประธานในที่ประชุมจึงสั่งพักการประชุมนานชั่วคราว เมื่อ สมาชิก สนช. กลับมาประชุมอีกครั้ง ก็ได้ข้อยุติ คือ กรรมาธิการฯ จะปรับแก้โดยให้นิติบุคคลแจ้งชื่อ ที่อยู่ พร้อมหลักฐานอื่นต่อพนักงานสอบสวน เพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่ได้เป็นบุคคลที่ขับขี่ในขณะที่กระทำผิดภายใน 30 วัน หากไม่แจ้งนิติบุคคล มีโทษปรับ 5 เท่าของโทษปรับสูงสุด

 

 

 นอกจากนี้ ยังเพิ่มเติมเนื้อหากรณีผู้กระทำผิดกฎจราจรเป็นชาวต่างชาติ ให้พนักงานสอบสวนแจ้งทราบผ่านทางไปรษณีย์ลงทะเบียน หรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีอื่นตามสมควร

             ทั้งนี้ผลการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในวาระที่ 3 มีคะแนนเสียงดังนี้ เห็นด้วย 138 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง ไม่เห็นด้วย ไม่มี และเห็นพร้อมกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ ในการประกาศใช้ร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบกดังกล่าวเป็นกฎหมาย จากนั้น จะจัดส่งให้คณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป

 


ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก https://workpointnews.com/2019/02/22/%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%8A-%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%93%E0%B8%91%E0%B9%8C%E0%B8%95%E0%B8%B1/

ติดตามข่าวสารวงการมอไซค์ : http://www.mocyc.com
Page Facebook : http://www.facebook.com/MocycThailand