เอ็มจีซี ลุยบิ๊กไบค์มือสอง ลุ้นปีแรกกวาดยอดทะลุพันคัน |

 

เอ็มจีซี ลุยบิ๊กไบค์มือสอง ลุ้นปีแรกกวาดยอดทะลุพันคัน

คุยกับแม่ทัพธุรกิจรถมือสองภายใต้กลุ่มเอ็มจีซี-เอเชีย สมชาย ตระกูลภิรมย์ รองกรรมการผู้จัดการ มาสเตอร์ เซอร์ทิฟายด์ ยูสคาร์ กลุ่มธุรกิจยูสคาร์ในเครือ บริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด ถึงที่มาที่ไปของการเปิดแบรนด์ใหม่ Your bike พร้อมการสยายปีกสู่ตลาดบิ๊กไบค์มือสอง มีการเตรียมแผนดำเนินธุรกิจหรือกลยุทธ์เจาะกลุ่มนักบิดอย่างไร มองโอกาสการเติบโตไว้ระดับไหน รวมถึงในอนาคต 3-5 ปีหลังจากนี้มีเป้าหมายอย่างไรบ้าง

 

 

ความเป็นมาของการแตกไลน์ธุรกิจ
เรามีแผนจะขยายสู่ธุรกิจนี้มานานสักระยะหนึ่งแล้ว เนื่องจากลูกค้าของฮาร์ลี่ย์-เดวิดสัน และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ที่เอ็มจีซีกรุ๊ปเป็นตัวแทนจำหน่าย มีลูกค้านำรถเข้ามาเทรดอินเพื่อแลกซื้อรถใหม่ โดยเฉพาะที่โชว์รูมอุบลราชธานีและหาดใหญ่ จากหลักหน่วยก็มีเพิ่มมากขึ้นจนถึงหลักสิบคัน รวมถึงมีบางคนอยากนำรถมาขายอย่างเดียวก็มี ซึ่งจริงๆ แล้ว แผนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นภายในปีหน้า

โดยก่อนหน้านี้เราทดลองนำร่องไปร่วมออกงานบางกอก ออโต ซาลอน และล่าสุด ในงานบิ๊ก มอเตอร์ เซล 2018 ที่ไบเทค บางนา ตรงนี้ก็ได้การตอบรับที่ดี นอกจากเริ่มต้นให้ลูกค้าได้ทำความรู้จักแบรนด์แล้ว เราเองก็ถือว่าได้ศึกษาตลาดไปในตัวด้วย

 

 

มุมมองต่อตลาดบิ๊กไบค์มือสอง
จากข้อมูลที่มีอยู่ ผมมองว่าจำนวนผู้ประกอบการมีเยอะพอสมควร แต่ทั้งนี้เป็นไปในลักษณะเต้นท์หรือผู้ประกอบการรายย่อยมากกว่า ส่วนที่ทำธุรกิจนี้จริงจังในรูปแบบของบริษัท เท่าที่เห็นมีอยู่ประมาณ 2-3 ราย ซึ่งพวกเขามีจำหน่ายรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กด้วย คาดว่าเดือนหนึ่งยอดขายน่าจะอยู่ที่หลักร้อยคัน แต่ถ้าเป็นบิ๊กไบค์อย่างเดียว น่าจะเฉลี่ยเดือนละ 20-30 คัน

แผนการดำเนินธุรกิจและจุดเด่น Your bike
เราใช้ประสบการณ์จากความเชี่ยวชาญในตลาดรถยนต์มือสองขยับมาสู่บิ๊กไบค์มือสอง โดยรถที่จำหน่ายจะยึดจากขนาดเครื่องยนต์ตั้งแต่ 500 ซีซี. ขึ้นไป ช่วงแรกเริ่มต้นทำตลาดแค่ 2 แบรนด์ คือ ฮาร์ลี่ย์-เดวิดสัน และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ที่เราเป็นตัวแทนจำหน่าย ขณะที่ยี่ห้ออื่นๆ ก็ไม่ปิดกั้น เราเปิดรับหมด เพียงแต่ก็ต้องดูเป็นรุ่นๆ ไปว่ามีความนิยมหรือความต้องการมากน้อยขนาดไหน

 

 

สำหรับจุดเด่นของเราให้ความสำคัญไปที่คุณภาพของตัวรถและมาตรฐานงานบริการ รถที่จอดขายจะต้องตรวจสอบข้อมูลได้ว่าไม่เคยเกิดอุบัติเหตุหนักมาก่อน ซึ่งตรงนี้มองง่าย ไม่มีย้อมแมวแน่นอน ขณะเดียวกันเรากำลังวางแผนเรื่องการรับประกันหรือวารันตี กับบริษัทที่ดูแลรถยนต์มือสองของเราให้เข้ามาดูในส่วนของบิ๊กไบค์ด้วย เบื้องต้นคาดว่าจะมีการวารันตีเป็นระยะเวลา 1 ปี

ในส่วนของงานบริการนั้น ปัจจุบันโชว์รูมชั่วคราวอยู่ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม เลียบทางด่วนรามอินทรา และเร็วๆ นี้มีแผนจะลงทุนสร้างโชว์รูมของ Your bike ที่เป็นศูนย์บริการแบบครบวงจร โดยมองทำเลไว้ 2 แห่ง คือ ลาดพร้าว 112 กับย่านพระราม 9 ซึ่งกำลังตัดสินใจเลือกและอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ ใช้เงินลงทุนประมาณ 60-70 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้

 

 

ความแตกต่างระหว่างการทำตลาดสี่ล้อและสองล้อ
พื้นฐานการทำธุรกิจยูสคาร์และรถจักรยานยนต์มือสองไม่ต่างกัน ผู้ประกอบการต้องมีมุมมองความคิดที่ใช้พื้นฐานเดียวกัน เพียงแต่กลุ่มเป้าหมายต่างกัน เราจึงต้องเข้าใจถึงพฤติกรรมผู้บริโภค ถ้าเป็นรถยนต์เขามองที่ความคุ้มค่า ใช้เหตุผล ความจำเป็น มองความน่าเชื่อถือ มองคุณค่าผลิตภัณฑ์

ส่วนมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ ลูกค้ามองว่านอกจากเป็นยานพาหนะแล้ว ยังคล้ายเป็นของเล่นและเป็นความท้าทายในด้านเกมกีฬาแบบสปอร์ต ด้วยเหตุนี้ระยะเวลาในการเปลี่ยนรถจะเร็วกว่ารถยนต์เยอะมาก ยิ่งเป็นของเล่นคนจะเบื่อเร็วมาก เต็มที่ไม่เกิน 2-3 ปี ผู้ใช้ก็เริ่มเปลี่ยนกันแล้ว หรือบางคนขี่ไปแค่ 3-4 เดือนก็เข้ามาเปลี่ยนก็มี ดังนั้น ด้วยกลุ่มเป้าหมายเยอะกว่า โอกาสทางธุรกิจจึงกว้างกว่ารถยนต์ รวมถึงการขยายตัวทางธุรกิจก็จะเร็วกว่าตามไปด้วย

 

 

ช่องทางการประชาสัมพันธ์
ในยุคนี้ต้องยอมรับว่า ช่องทางที่คนส่วนใหญ่ใช้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารต่างๆ อันดับแรกต้องยกให้สื่อออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดีย และเราเองก็เลือกใช้ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งเป็นหลัก ทั้งในไลน์และเฟซบุ๊ก โดยใช้ชื่อว่า Your Bike โชว์รูมซื้อขาย แลกเปลี่ยน Big Bike และในเว็บไซต์ www.masterusedcar.com ลงข้อมูลสินค้าจัดรวมอยู่ในรถยนต์ มีราคา สเปก รายละเอียดทุกอย่างครบถ้วน ซึ่งทุกวันนี้ลูกค้าของเราเกิน 50 เปอร์เซ็นต์มาจากสื่อดิจิตอลทั้งสิ้น

ตั้งเป้าหมายการเติบโตหลังจากนี้อย่างไร
เอ็มจีซีไม่มองเล็ก เล็กๆ เราไม่ทำ หลังจากโชว์รูมพร้อมทำการตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไป เรามองเป้าหมายจะไปให้ถึงยอดขาย 3,000 คัน ภายใน 5-6 ปีข้างหน้า แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้นได้ คาดหวังยอดขายเฉลี่ยต่อเดือนประมาณ 20 คัน ในปีแรก 240-300 คัน น่าจะทำได้ไม่ยาก หรืออาจทะลุ 1,000 คันตั้งแต่ปีแรกก็มีแนวโน้มความเป็นไปได้เช่นกัน