นิว โรดแม็ป เอ.พี.ฮอนด้า ได้เวลาสร้างนักบิด สายเลือดใหม่ ปั้นเด็กไทยสู่สนามระดับโลกแบบยั่งยืน |

นิว โรดแม็ป "เอ.พี.ฮอนด้า" ได้เวลาสร้างนักบิด "สายเลือดใหม่" ปั้นเด็กไทยสู่สนามระดับโลกแบบยั่งยืน

 

     วงการมอเตอร์สปอร์ตเมืองไทย ณ เวลานี้กำลังอยู่ในช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์เมื่อมีเหล่านักบิดสัญชาติไทย ได้รับการผลักดันสู่การแข่งขันรายการต่างๆ มากมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ และปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เอ.พี.ฮอนด้า ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์อันดับหนึ่งของไทย คือผู้ริเริ่ม บุกเบิก และอยู่เบื้องหลังการผลักดันเด็กไทยเหล่านี้ให้เป็นดาวประกายแสงในวงกีฬามอเตอร์สปอร์ตมายาวนานกว่า 32 ปี ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

 

       สำหรับคนที่ติดตามการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบ ย่อมคุ้นชื่อนักบิดกลุ่มนี้เป็นอย่างดี อาทิ “ฟิล์ม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดขวัญใจชาวไทย และเป็นนักบิดประวัติศาสตร์ไทยคนแรกที่ได้ไปลงแข่งขันในสนามระดับโลก ในการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก รายการ "โมโตทู" มาอย่างโชกโชน, “โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ ที่ตามรอยพี่ชายร่วมสายเลือดลงแข่งขันรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี. รายการ เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ,  ส่วนที่กำลังโลดแล่นอยู่ในสนามระดับโลกขณะนี้ ได้แก่ "ชิพ"  นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ฉายานักบิดล้านวิว ที่โชว์ลีลา เทคนิคการขับขี่แบบเหนือชั้นในสนามระดับโลก จนมีคนเข้าชมคลิปเป็นจำนวนมากกว่า 1 ล้านครั้ง ในรายการ "โมโตทรี " ที่ลงแข่งขันต่อเนื่องเป็นปีที่ 2  มาต่อที่ "ก้อง” สมเกียรติ จันทรา เป็นนักบิดไทยคนแรกที่ได้แชมป์ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ 2016 นอกจากนี้ยังมี นักบิดสาวแกร่งหนึ่งเดียวของไทย   "มุกข์" มุกข์ลดา สารพืช  ในรายการ เอเชีย โรด เรซซิ่ง ที่ขึ้นยืนโพเดี้ยมไม่แพ้ชายอกสามศอกมาแล้วหลายครั้ง หรือแม้กระทั่ง  “ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร อีกหนึ่งนักบิดรุ่นโมโตทูระดับโลก   “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์  ที่ลงแข่งในรายการ  เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ ซึ่งทั้งหมดนี้ได้ผ่านการฝึกฝนทักษะการเรียนรู้การขับขี่มาจาก "เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง สคูล" ทั้งสิ้น

 

       ทั้งหมดที่เอ่ยมา แม้ปัจจุบันพวกเขาจะมีเส้นทางเดินที่แตกต่างกันไปตามวิถีมืออาชีพ แต่ทุกคนล้วนเริ่มต้นเส้นทางมอเตอร์สปอร์ตมาแบบเดียวกัน นั่นคือการได้รับการฝึกฝน ผลักดันจาก เอ.พี.ฮอนด้า ตั้งแต่เป็นนักบิดระดับเยาวชน ภายใต้โครงการ “ฮอนด้า เรซซิ่ง สคูล” โรงเรียนนักบิดที่ได้ให้วิชา ทักษะการขับขี่และความรู้มากมายแก่พวกเขาตั้งแต่เริ่มตั้งไข่ ไปจนถึงระดับมืออาชีพ ก่อนเติบโตขึ้นมาสร้างชื่อเสียงแก่ประเทศ

 

       เอ.พี.ฮอนด้า เริ่มต้นโครงการนี้ด้วยเป้าหมายอันยิ่งใหญ่คือผลักดันนักบิดสัญชาติไทยสู่เวทีระดับชาติ พร้อมกับหาทัวร์นาเมนต์การแข่งขันให้พวกเขาได้ออกไปแสดงฝีมือ และเมื่อบ่มเพาะประสบการณ์จนสุกงอม เอ.พี.ฮอนด้า ก็พร้อมเปิดประตูบานต่อไปแก่พวกเขา ด้วยการส่งตัวไปลงแข่งขันรายการที่ใหญ่ขึ้นทั้งในระดับเอเชียอย่าง เอเชีย ทาเลนต์ คัพ , เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ, จนถึงระดับยุโรป เอฟไอเอ็ม ซีอีวี โมโตทรี จูเนียร์ เวิลด์ แชมเปียนชิพ และรายการใหญ่สุดระดับโลกที่เคยพานักบิดไทยไปลงแข่งขันก็คือ “โมโตทู”

 

         ทั้งหมดทั้งปวงที่เอ่ยมานี้ จะเรียกว่า เอ.พี.ฮอนด้า คือผู้บุกเบิก, ผู้สร้าง, ผู้ให้โอกาส และผู้สนับสนุนนักบิดไทยเป็นทีมแรก ก็คงไม่ผิดแต่ประการใด เพราะที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้แฟนกีฬามอเตอร์สปอร์ตชาวไทยเห็นแล้วว่า สามารถปลุกปั้นนักบิดสัญชาติไทยแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ ให้มีความสามารถบนแทร็คไม่ยิ่งหย่อนกว่าชาติใดในโลกยามไปวาดลวดลายเวทีนานาชาติ ทั้งคว้าแชมป์, ขึ้นโพเดี้ยม และเก็บแต้มจากรายการระดับโลกเป็นว่าเล่น

 

           เอ.พี.ฮอนด้า เริ่มการฝึกฝนทักษะนักแข่งไทยตั้งแต่ปี 1886   เป็นระยะเวลายาวนานกว่า 32 ปี เริ่มจากโครงการ "ฮอนด้า เรซซิ่ง สคูล" เพราะคนเราจะเก่งขึ้นมาเองได้คงเป็นเรื่องที่ยาก ดังนั้นจึงต้องฝึกฝน เรียนรู้ทักษะการขับขี่ที่ถูกต้อง และพัฒนาฝีมือไปสู่ระดับโลก ซึ่งเป็นหลักสูตรที่มาจากประเทศญี่ปุ่น เขียนออกมาเป็นตำรา จนกลายเป็นหลักการเรียนรู้เชิงวิทยาศาสตร์ให้แก่เยาวชนในปัจจุบัน โดยฝึกสอนทุกขั้นตอนตั้งแต่การเรียนรู้เรื่องตัวรถ เครื่องยนต์ ยางที่ใช้ กฏ กติกา มารยาทของการเป็นนักแข่งมืออาชีพ ตลอดจนถึงวิธีการ ทักษะการขับขี่ที่ถูกต้อง ปลอดภัย เช่น เข้าโค้ง และการแข่งในแต่ละสภาพสนามจะต้องฝึกฝนอย่างไร ต้องมีเตรียมตัวตั้งแต่ต้นเพราะเมื่อไปแข่งระดับโลกจะไม่มีใครได้ลงซ้อมก่อนการแข่งขัน 

 

          วันนี้ ผ่านมาแล้ว 32 ปี เอ.พี.ฮอนด้า ยังคงไม่หยุดที่จะสร้างนักบิดเลือดใหม่ป้อนสู่วงการมอเตอร์สปอร์ต ปัจจุบันได้ริเริ่มโครงการบิดล่าฝัน “เอ.พี.ฮอนด้า อะคาเดมี่ ไทยแลนด์”  เปิดประตูรับสมัครเยาวชนยุคใหม่ที่มีใจรักและชื่นชอบความเร็วทั่วประเทศ อายุระหว่าง 9-14 ปี ร่วมทดสอบฝีมือบนแทร็ค เพื่อเห้นหาดาวรุ่งดวงใหม่ที่โดดเด่น เข้าสู่สถาบัน “เอ.พี.ฮอนด้า อะคาเดมี่” เพื่อปลุกปั้นพวกเขาสู่การสร้างชื่อเสียงแก่ประเทศชาติในฐานะนักแข่งระดับโลกต่อไป

           กลับมาในส่วนของการแข่งขันปัจจุบัน เอ.พี.ฮอนด้า สานต่อเจตนารมณ์ของพวกเขา ด้วยการประกาศผลักดันนักบิดเลือดใหม่ลงโชว์ฟอร์มรายการต่างๆ ที่เห็นชัดสุดคือ เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งปีนี้มอบโอกาสให้ “นิว” กฤชพร แก้วสนธิ ขึ้นมาวาดลวดลายในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี. คู่กับนักบิดสาวแกร่งหนึ่งเดียวของไทย "มุกข์" มุกข์ลดา สารพืช ส่วน รุ่นซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี.ได้รุกกี้ดาวรุ่ง “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ แชมป์นักบิดรายการระดับประเทศไทย  มาคับเคี่ยวในสนาม 

 

         ตามด้วยรายการ "เอเชีย ทาเลนต์ คัพ" ที่ปีนี้ส่ง 3 หนุ่มดาวรุ่ง แต่ฝีมือพระกาฬ “ก๊อง” ธัชกร บัวศรี, “ไอซ์”นิติพงษ์ แสงสว่าง และ “แชมป์” กอบชัย แซ่หลิว ออกล่าความสำเร็จ เช่นเดียวกับ เอฟไอเอ็ม ซีอีวี โมโตทรี จูเนียร์ เวิลด์ แชมเปียนชิพ ยังรับหน้าที่โดยดาวรุ่งฟอร์มแรงประจำค่าย “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา เป็นคนไทยคนแรกที่ได้แชมป์ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ 2016 และรายการใหญ่สุด โมโตทรี ก็เป็นหน้าที่ของ “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ ออกตะลุยเก็บแต้มจากคู่แข่งระดับโลกแบบเต็มฤดูกาล 2 ปีต่อเนื่อง

 

        เมื่อพิจารณาจากรายชื่อที่เอ่ยมา เห็นได้ชัดเจนว่า ณ วันนี้ “เอ.พี.ฮอนด้า” ได้ส่งขุมกำลังพลรุ่นใหม่ เข้าร่วมการแข่งขันกีฬามอเตอร์สปอร์ตทั้งในและนอกประเทศแบบเต็มสูบ ด้วยความเชื่อมั่นว่าการมอบโอกาสให้แก่เด็กไทยกลุ่มนี้ จะเป็นรากฐานสำคัญต่อการพัฒนาวงการมอเตอร์สปอร์ตของประเทศ ให้พวกเขาได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ พัฒนาฝีมือให้ไปถึงขีดสุด ก่อนผลักดันสู่เวทีระดับโลกอย่างยั่งยืน

 

       เพราะวันนี้ การดึงนักบิดฝีมือชั้นเยี่ยมมาไล่ล่าตำแหน่งแชมเปี้ยน และ โพเดียม ไม่ได้อยู่ในเป้าหมายของ เอ.พี.ฮอนด้า อีกต่อไปแล้ว แต่เป็นการสวมบทบาท “ผู้สร้าง” ปูเส้นทางให้นักบิดเยาวชนไทย เดินต่อไปสู่เวทีระดับโลกต่างหาก ซึ่งเป็นสิ่งที่ทีมซิ่งค่ายปีกนกจะเดินหน้าทำกันต่อไปแบบไม่มีวันสิ้นสุด

 

          แฟนๆ กีฬามอเตอร์สปอร์ตสามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวและส่งกำลังใจแรงเชียร์นักบิดไทยได้ผ่านทางเว็บไซต์ https://www.aphonda.co.th/aphondaracingthailand/index.php