ทัพนักบิด เอ.พี.ฮอนด้า พร้อมลุยโฮมเรซ “ฟิล์ม” มั่นใจมีลุ้นคว้าแชมป์ 

ทัพนักบิดไทยจาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ พร้อมเต็มร้อยสำหรับการลงสู้ศึกสองล้อชิงแชมป์เอเชียสนามสุดท้าย ที่ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ขณะ “ฟิล์ม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ผู้ช่วยผู้โค้ชมั่นใจลูกทีมมีลุ้นคว้าแชมป์โฮมเรซต่อหน้าแฟนความเร็วชาวไทย

ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ทวีปเอเชีย รายการ เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2017 มีคิวดวลความเร็วสนามสุดท้ายที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 1-3 ธันวาคมนี้ โดยจะแข่งขั้นทั้งสิ้น 2 เรซ เพื่อส่งท้ายฤดูกาล

โดยความคืบหน้าล่าสุดของทักนัพบิดจาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ทั้งในรุ่นใหญ่อย่าง ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. ที่นำโดย “โฟล์ท” รัฐพงษ์​วิไลโรจน์ และทีมเมทชาวญี่ปุ่นอย่าง “ทัตซูยะ ยามากูจิ” ก็หายเจ็บกลับมาฟิตเต็มร้อยแล้ว ส่วนในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. สองนักบิดไทยอย่าง “เอ้” วรพงศ์ มาลาหวล และสาวแกร่งหนึ่งเดียวของไทย “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช ก็เริ่มปลดล็อคผลงานกับรถแข่งรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัวมากขึ้น

“ฟิล์ม” รัฐภาคย์​ วิไลโรจน์ ที่ผันตัวมาเป็นผู้ช่วยโค้ชอย่างเต็มตัวปีนี้ เผยว่า “เป็นปีแรกของ เอ.พี.ฮอนด้า ที่มีการปรับโครงสร้างทีมครั้งใหญ่ ทำให้การเติ่มต้นเราต้องเจออุปสรรคหลายอย่าง ทั้งเรื่องการสร้างระบบการฝึกซ้อมใหม่ และทีมงานที่เป็นคนไทยทั้งหมด รวมถึงการสร้างความเข้าใจในทีมเพื่อไปสู่จุดหมายเดียวกัน แถมในปีนี้เรามีการเปลี่ยนรถแข่งในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. ช่วงกลางฤดูกาลทำให้ความต่อเนื่องในการเซ็ตอัพเกิดปัญหาเล็กน้อย”

“หลังจบการแข่งขันสนามที่ผ่านมาที่ประเทศอินเดีย ทุกคนมีความมั่นใจมากขึ้น โดยเฉพาะนักแข่งทุกคน และทีมงาน ที่เริ่มทำงานได้อย่างลงตัว หลังจากที่มีการเปลี่ยนรถแข่งและทุกอย่างก็ดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา นักแข่งเตรียมความพร้อมหนักมาก ซ้อมรถมากขึ้น เพื่อสร้างความคุ้นเคย และเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด รวมถึงการทำงานเพื่อสร้างความเข้าใจกับตัวรถได้ดีขึ้น มีสมาธิกับเกมมากขึ้น”

ฟิล์ม เผยว่า “ตอนนี้นักบิดมีแรงกระตุ้นสูงขึ้น และทำผลงานอยู่ในแถวหน้าตลอดที่อินเดีย รายละเอียดต่างๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก แต่เราหาจุดที่ลงตัวได้แล้ว หาการเซ็ตอัพที่ดีได้แล้ว นักแข่งสามารถทำเวลาได้เร็วขึ้นและคงที่มากขึ้น”

ทั้งนี้ รัฐภาคย์ เปิดเผยถึงความแตกต่างของการแข่งขันในสนามที่ 2 ซึ่งดวลความเร็วกันที่ บุรีรัมย์ และสนามสุดท้ายที่กำลังจะมีขึ้นที่เดิมในสุดสัปดาห์นี้ว่า “ตอนนี้เรามีรถแข่งที่ไม่เหมือนกันจากสนาม 2 ที่แข่งที่ บุรีรัมย์​ เราได้เปลี่ยนมาใช้รถแข่งที่มีสเป็กสูงขึ้น เครื่องยนต์ 2 สูบ มีกำลังเครื่องยนต์มากกว่าเดิม รวมถึงอะไหล่ต่างๆ จาก ฮอนด้า และอะไหล่พิเศษที่เราสั่งมา ได้มีการทดสอบแล้ว เรามีข้อมูลมากขึ้น ทำให้เสียเปรียบคู่แข่งน้อยลงหากเปรียบเทียบกับสนามที่ 2”

“นักแข่ง เอ.พี.ฮอนด้า ทั้ง 3 คน ไม่เป็นรองใครในรายการนี้แน่นอน ฝีมือและชั้นเชิงเราสู้ได้ เราตั้งเป้าขึ้นไปหัวแถวให้ได้ และมีโอกาสที่จะได้ฉลองแชมป์ในบ้านเกิดทั้ง 2 รุ่น โดยในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. เราเพิ่งได้รับข้อมูลในการปรับเซ็ตที่ลึกมากขึ้น นักแข่งมั่นใจมากขึ้น โดยเฉพาะกับการเบรคและการเร่งออกจากโค้ง ส่วนใหญ่อยู่ที่ช่วงล่างที่เรานำมาปรับเซ็ต”

“ส่วนในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. เราพร้อมมากๆ ผมมั่นใจว่าเราจะขึ้นไปอยู่กลุ่มหน้าได้ ทั้งการยืนโพเดี้ยม และการคว้าแชมป์เพื่อเป็นของขวัญให้แฟนๆ ชาวไทยให้ได้ หลังจากที่ทำงานกันอย่างหนักมาตลอดทั้งปี เราจะแสดงให้เห็นตรงนี้ต่อหน้าชาวไทยในบ้านเกิด”

สำหรับการแข่งขัน เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2017 สนามสุดท้าย จะเริ่มเข้าสู่โปรแกรมการซ้อมครั้งที่ 1-2 ในวันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายนนี้ หลังจากนั้นจะลงจับเวลาควอลิฟายเพื่อจัดอันดับสตาร์ทในวันศุกร์ที่ 1 ธันวาคมนี้ ก่อนจะแข่งขันเรซที่ 1 และ 2 ในวันเสาร์และอาทิตย์ที่ 2-3 ธันวาคมนี้

แฟนๆ กีฬามอเตอร์สปอร์ตชาวไทย สามารถติดตามข่าวสารและร่วมส่งแรงใจเชียร์ทีมแข่งสัญชาติไทย "เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์" ได้ทางเว็บไซต์ www.aphondaracingthailand.com