สวัสดีครับทุกท่าน ผมเป็นเจ้าของโรงงานผลิตอาหาร วันนี้ขอแบ่งปันเหตุผลว่าทำไมโซล่าเซลล์สำหรับโรงงานจึงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่าการติดตั้งในบ้านพักอาศัย
ในตอนแรก ผมเองก็มีความกังวลว่าโซล่าเซลล์สำหรับโรงงานจะคุ้มค่าหรือไม่ เนื่องจากระบบไฟฟ้าโรงงานใช้ไฟ 3 เฟส ซึ่งมีอัตราค่าไฟต่างจากบ้าน แต่เมื่อได้ศึกษาข้อมูลเชิงลึก ก็พบว่าโรงงานมีข้อได้เปรียบหลายประการ
ข้อดีแรกคือ โรงงานมีหลังคาขนาดใหญ่และโครงสร้างแข็งแรง จึงรองรับการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ได้มากโดยไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักหรือความแข็งแรง โรงงานของผมสามารถติดตั้งได้ถึง 150 กิโลวัตต์บนหลังคาเดียว ซึ่งหากเป็นบ้านพักอาศัยทั่วไป มักรองรับได้เพียง 5-10 กิโลวัตต์เท่านั้น
ข้อดีถัดมาคือ เวลาการใช้ไฟฟ้าของโรงงานสอดคล้องกับช่วงเวลาที่แผงโซล่าเซลล์ผลิตไฟได้สูงสุด คือระหว่างเวลา 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น ทำให้พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้ถูกใช้งานจริงเกือบทั้งหมด จึงไม่จำเป็นต้องขายไฟคืนในราคาต่ำ
เมื่อถึงเวลาตัดสินใจติดตั้ง ผมเลือกใช้บริการของบริษัท Powervault เพราะมีประสบการณ์ติดตั้งในโรงงานผลิตอาหารโดยเฉพาะ เข้าใจมาตรฐานด้านความปลอดภัย และวิธีจัดการระบบสายไฟภายในพื้นที่การผลิตเป็นอย่างดี
การรับติดตั้งโซล่าเซลล์ในโรงงานมีรายละเอียดที่ต้องพิจารณามากกว่าการติดตั้งในบ้าน เช่น ต้องวางแผนเพื่อลดผลกระทบต่อกระบวนการผลิต การเดินสายไฟให้ปลอดภัย และออกแบบระบบให้เหมาะกับโหลดไฟฟ้าของเครื่องจักรแต่ละประเภท
ผลการใช้งานจริงตลอด 1 ปีที่ผ่านมา โรงงานของผมสามารถลดค่าไฟฟ้าจาก 38,000 บาท เหลือเพียง 15,000 บาทต่อเดือน ประหยัดได้ถึงเดือนละ 23,000 บาท หรือราว 276,000 บาทต่อปี ถือเป็นอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าการลงทุนหลายประเภท
สิ่งสำคัญอีกประการคือ โซล่าเซลล์โรงงานยังช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของบริษัทด้านความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เพราะลูกค้าปัจจุบันให้ความสำคัญกับ Green Manufacturing มากยิ่งขึ้น
สำหรับเจ้าของธุรกิจที่กำลังพิจารณาติดตั้งโซล่าเซลล์ในโรงงาน ผมขอแนะนำให้วิเคราะห์ Payback Period อย่างละเอียด และเลือกบริษัทที่มีประสบการณ์โดยตรงกับภาคอุตสาหกรรม เพราะการติดตั้งในโรงงานแตกต่างจากบ้านพักอาศัยโดยสิ้นเชิง

ในมุมมองของผม การรับติดตั้งโซล่าเซลล์โรงงานสำหรับโรงงานถือเป็นหนึ่งในทางเลือกที่คุ้มค่าที่สุดทั้งในด้านต้นทุนและภาพลักษณ์องค์กรครับ