รู้จัก ‘แคลเซียมโบรอน’ ธาตุอาหารสำคัญช่วยพืชเติบโต
- จิปาถะ อื่นๆ
-
nenechan
- 0
- 02 ก.ค. 2567 20:03
- 49.228.99.***
ในโลกของเกษตรกรรม การค้นหาปัจจัยที่ช่วยให้พืชเจริญเติบโตงอกงามและให้ผลผลิตอย่างมีประสิทธิภาพนั้น ถือเป็นสิ่งที่เกษตรกรทุกคนใฝ่ฝัน และ ‘แคลเซียมโบรอน’ ก็คือหนึ่งในคำตอบสำคัญที่หลายคนมองหา เพราะเป็นธาตุอาหารที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของพืช แล้วสารอาหารประเภทนี้คืออะไร มีความสำคัญกับการเพราะปลูกอย่างไรบ้าง มาดูคำตอบกันเลย
แคลเซียมโบรอนคืออะไร ?
แคลเซียมโบรอน เป็นธาตุอาหารชนิดหนึ่งที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช โดยไม่ได้เป็นธาตุอาหารชนิดเดียว แต่เป็นการรวมตัวกันของธาตุอาหาร 2 ชนิดที่สำคัญต่อพืช นั่นคือ แคลเซียม (Ca) และ โบรอน (B) ธาตุอาหารทั้ง 2 ชนิดนี้ ทำหน้าที่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน ช่วยให้พืชดูดซึมธาตุอาหารอื่น ๆ ได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลต่อการเจริญเติบโต ออกดอก ออกผล และคุณภาพของผลผลิต
ประโยชน์ของแคลเซียมโบรอนต่อพืช
- เสริมสร้างผนังเซลล์: แคลเซียมมีบทบาทสำคัญในการสร้างผนังเซลล์ให้แข็งแรง ช่วยให้พืชตั้งต้นได้ดี ทนทานต่อโรคและแมลงศัตรูพืชชนิดต่าง ๆ
- ช่วยดูดซึมน้ำและธาตุอาหาร: แคลเซียมช่วยควบคุมการดูดซึมน้ำและธาตุอาหารต่างๆ ผ่านผนังเซลล์ ช่วยให้พืชได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างเพียงพอ
- ส่งเสริมการเจริญเติบโตของราก: แคลเซียมช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของราก ทำให้พืชสามารถดูดซึมน้ำและธาตุอาหารจากดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ช่วยให้พืชออกดอกติดผลดี: โบรอนมีบทบาทสำคัญในกระบวนการผสมเกสร ช่วยให้พืชออกดอกติดผลดก ผลผลิตมีขนาดใหญ่และคุณภาพดี
- ป้องกันโรคทางใบ: โบรอนช่วยป้องกันโรคทางใบ เช่น โรคจุดสีน้ำตาล โรคราสนิม
- เพิ่มรสชาติของผลผลิต: แคลเซียมโบรอนช่วยเพิ่มรสชาติของผลผลิต เช่น ทำให้ผลไม้มีรสชาติหวาน กรอบ อร่อยมากยิ่งขึ้น
เช็กสัญญาณเตือน พืชอาจกำลังขาดแคลเซียมโบรอน
อย่างที่เกริ่นไปข้างต้น ว่าแคลเซียมและโบรอนเป็นธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช การขาดสารอาหารเหล่านี้จึงส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของพืชได้ ดังนั้น จึงควรหมั่นสังเกตลักษณะของพืชว่าขาดสารอาหารหรือไม่ โดยเราสามารถระบุสัญญาณการขาดแคลเซียมและโบรอนในพืชได้ ดังนี้
สัญญาณการขาดแคลเซียม
- ยอดอ่อนและใบอ่อนเหี่ยว หงิกงอ และแห้งตาย
- ปลายรากและยอดเจริญเติบโตช้า
- ใบมีจุดนูนสีน้ำตาลหรือดำ
- ผลไม้มีจุดสีน้ำตาลและเน่าเสียง่าย
สัญญาณการขาดโบรอน
- ยอดเจริญเติบโตผิดปกติ บิดเบี้ยว และแตกแขนงมาก
- ใบอ่อนมีสีเหลืองครามหรือขาว และมีจุดนูนสีน้ำตาล
- รากแข็งและแตกกิ่งก้านน้อย
- ผลไม้มีรอยร้าวตามยาวและเน่าเสียง่าย
ป้องกันพืชมีภาวะขาดแคลเซียมและโบรอน โดยการปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยหรือวัสดุปรับปรุงดินที่มีแคลเซียมและโบรอน รวมถึงการให้ปุ๋ยเสริมทางใบในกรณีที่พืชแสดงอาการขาดอย่างชัดเจน ช่วยพืชของคุณเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์แน่นอน