โรคลมชักในทารก มีอาการ วิธีป้องกัน และรักษาอย่างไร

  • จิปาถะ อื่นๆ
  • jj
  • 0
  • 29 เม.ย. 2567 12:22
  • 58.8.14.***

 

วัยทารกเป็นวัยที่ต้องได้รับการดูแลจากพ่อแม่อย่างใกล้ชิด เพราะมีความเสี่ยงที่จะเจ็บป่วยได้ง่าย ซึ่งหนึ่งในภาวะที่เป็นอันตรายอย่างมากคือโรคลมชักในทารก ในบทความนี้ เราจะมาไปรู้จักกับโรคลมชักในทารกกันมากขึ้น พร้อมมีวิธีในการป้องกันและรักษามาบอกกัน

 

โรคลมชักในทารกคืออะไร

โรคลมชักในทารกเป็นภาวะที่มีอาการชักกระตุกอย่างผิดปกติของร่างกายเนื่องจากการทำงานผิดปกติของสมอง ส่งผลให้เด็กมีอาการสั่นไหว กระตุก หรือเกร็งตัวโดยไม่สามารถควบคุมได้ โรคลมชักมักเกิดขึ้นในช่วงอายุ 1 เดือนถึง 2 ปี และมีสาเหตุหลักมาจากความผิดปกติของสมองรวมถึงปัญหาสุขภาพอื่นๆ

 

โรคลมชักในทารกเกิดจากอะไร

สาเหตุของโรคลมชักสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายประการ อาทิ

  • ความผิดปกติของสมองตั้งแต่กำเนิด เช่น โรคสมองพิการแต่กำเนิด โครงสร้างสมองผิดปกติ

  • พันธุกรรม บางครอบครัวมีประวัติโรคลมชัก

  • ภาวะขาดออกซิเจนของสมองขณะคลอด

  • ความผิดปกติทางเมตาบอลิซึม ทำให้ระดับน้ำตาล โซเดียมในเลือดผิดปกติ

  • อุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บที่สมอง เช่น ศีรษะถูกกระแทก

  • ภาวะติดเชื้อในสมอง เช่น ไวรัส เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย

 

อาการของโรคลมชักในทารก

อาการที่พบบ่อยของโรคลมชักในทารก ได้แก่

  • อาการชัก กระตุกทั้งตัว หรือบางส่วนของร่างกาย เช่น แขน ขา ใบหน้า

  • สูญเสียความรู้สึกตัวชั่วคราว ตาเหม่อลอย

  • อ้าปากหายใจถี่และแรง คออาจโผล่ออกมา

  • กัดลิ้น หรือนิ้วมือขณะชัก

  • ถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระรั่วขณะชัก อาการชักของเด็กแต่ละคนอาจแตกต่างกัน และในบางรายอาจไม่มีอาการชักแต่หมดสติชั่วคราวเท่านั้น ควรเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด

 

วิธีป้องกันโรคลมชักในทารก

เนื่องจากโรคลมชักมีสาเหตุจากความผิดปกติหลายอย่าง การป้องกันจึงควรดูแลให้ครอบคลุมดังนี้

  • สตรีตั้งครรภ์ควรดูแลสุขภาพดี ตรวจครรภ์อย่างสม่ำเสมอ งดบริโภคแอลกอฮอล์และสิ่งเสพติด

  • หลีกเลี่ยงความเครียดและอันตรายที่จะกระแทกศีรษะ

  • ให้ภูมิคุ้มกันพื้นฐานอย่างครบถ้วน เพื่อป้องกันไวรัสและเชื้อโรค

  • ให้นมแม่ พร้อมดูแลโภชนาการอย่างถูกต้อง

 

แนวทางการรักษาโรคลมชักในทารก

เมื่อพบอาการชักในทารก สิ่งสำคัญต้องนำส่งแพทย์ทันที เพื่อหาสาเหตุและได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม แพทย์อาจจะสั่ง

  • ตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น เจาะเลือด ตรวจปัสสาวะ เพื่อหาสาเหตุของโรคลมชัก

  • จำลองสมองด้วยเครื่องสแกนสมอง หากสงสัยว่าเกิดจากความผิดปกติของสมอง

  • ให้ยารักษาโรคลมชัก เพื่อควบคุมอาการชัก ในรายที่หาสาเหตุไม่พบ

  • ผ่าตัดสมอง ในกรณีที่มีความผิดปกติที่สามารถแก้ไขได้ด้วยการผ่าตัด

 

การดูแลลูกน้อยอย่างใกล้ชิด พร้อมพาลูกไปพบแพทย์ตามช่วงวัย จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายกับลูกได้ การเล็งเห็นอาการผิดปกติตั้งแต่แรกและพาไปพบแพทย์อย่างทันท่วงที เพื่อวินิจฉัยและรักษาโรงลมชักในทารกจะทำให้เด็กสามารถหายจากโรคได้โดยเร็วและมีพัฒนาการที่สมวัยได้นั่นเอง