ระบบไฟฟ้า เป็นหัวใจสำคัญของ "โรงงานอุตสาหกรรม" โดยเฉพาะสายไฟฟ้า ทำหน้าที่ส่งกระแสไฟฟ้าไปยังเครื่องจักร อุปกรณ์ และระบบต่าง ๆ การเลือกใช้สายไฟที่เหมาะสม จึงเป็นสิ่งสำคัญ บทความนี้ พาทุกท่านไปรู้จักประเภทของสายไฟฟ้า ในอุตสาหกรรมโรงงาน

1. สายไฟ THW

• ชื่อเต็ม: สายไฟฟ้าหุ้มฉนวน PVC ทนความร้อน 70 องศา เซลเซียส

• ลักษณะ: สายไฟเดี่ยว มี 1 แกน หรือหลายแกน หุ้มฉนวน PVC

• การใช้งาน: เดินสายไฟในร่ม บนผนัง ฝ้าเพดาน ร้อยท่อ

• ข้อดี: ราคาถูก หาซื้อง่าย ติดตั้งง่าย

• ข้อเสีย: ไม่ทนความร้อนสูง ไม่ทนแดด ไม่ทนน้ำ

2. สายไฟ THWN

• ชื่อเต็ม: สายไฟฟ้าหุ้มฉนวน XLPE ทนความร้อน 90 องศา เซลเซียส

• ลักษณะ: สายไฟเดี่ยว มี 1 แกน หรือหลายแกน หุ้มฉนวน XLPE

• การใช้งาน: เดินสายไฟในร่ม บนผนัง ฝ้าเพดาน ร้อยท่อ

• ข้อดี: ทนความร้อนสูง ทนไฟ

• ข้อเสีย: ราคาแพงกว่าสายไฟ THW

3. สายไฟ N2XY

• ชื่อเต็ม: สายไฟฟ้าหุ้มฉนวน XLPE เปลือกชั้นนอก XLPE

• ลักษณะ: สายไฟเดี่ยว มี 1 แกน หรือหลายแกน หุ้มฉนวน XLPE 2 ชั้น

• การใช้งาน: เดินสายไฟใต้ดิน ฝังดิน

• ข้อดี: ทนความร้อนสูง ทนไฟ ทนน้ำ ทนแรงดัน

• ข้อเสีย: ราคาแพง ติดตั้งยาก

4. สายไฟ NYY

• ชื่อเต็ม: สายไฟฟ้าหุ้มฉนวน PVC เปลือกชั้นนอก PVC

• ลักษณะ: สายไฟเดี่ยว มี 1 แกน หรือหลายแกน หุ้มฉนวน PVC 2 ชั้น

• การใช้งาน: เดินสายไฟนอกอาคาร บนผนัง ฝ้าเพดาน

• ข้อดี: ทนความร้อน ทนไฟ ทนน้ำ ทนแรงดึง

• ข้อเสีย: ราคาแพงกว่าสายไฟ THW

5. สายไฟ VAF

• ชื่อเต็ม: สายไฟ Flexible หุ้มฉนวน PVC

• ลักษณะ: สายไฟที่มีความยืดหยุ่นสูง

• การใช้งาน: เดินสายไฟในอุปกรณ์ไฟฟ้า มอเตอร์

• ข้อดี: ยืดหยุ่นสูง ติดตั้งง่าย

• ข้อเสีย: ราคาแพงกว่าสายไฟ THW

6. สายไฟ MC

• ชื่อเต็ม: สายไฟเคเบิ้ล หุ้มฉนวน XLPE เปลือกชั้นนอกโลหะ

• ลักษณะ: สายไฟที่มีหลายแกน หุ้มฉนวน XLPE เปลือกชั้นนอกเป็นโลหะ

• การใช้งาน: เดินสายไฟในร่ม ใต้ดิน

• ข้อดี: ทนความร้อนสูง ทนไฟ ทนน้ำ ทนแรงดัน

• ข้อเสีย: ราคาแพง ติดตั้งยาก

การเลือกสายไฟฟ้าให้เหมาะสมกับการใช้งาน

• พิจารณาขนาดสายไฟ : ดูจากกระแสไฟฟ้าที่ใช้งาน สำหรับการเลือกขนาดสายไฟที่รองรับกระแสไฟฟ้าได้เพียงพอ เพื่อป้องกันปัญหาสายไฟร้อน ลัดวงจร

• มาตรฐานของสายไฟ : เลือกสายไฟที่มีมาตรฐาน มอก. เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพ ความปลอดภัย

• แหล่งซื้อ : ควรเลือกซื้อจากร้านค้าที่เชื่อถือได้ มั่นใจว่าได้สินค้าที่มีคุณภาพ

• ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ : กรณีไม่แน่ใจ ควรปรึกษาช่างไฟฟ้า หรือผู้เชี่ยวชาญ

การติดตั้งสายไฟฟ้า

• ควรจ้างช่างไฟฟ้าที่มีความชำนาญ

• ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย

• ตรวจสอบระบบไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ

เลือกสายไฟให้เหมาะสมกับการใช้งานเพื่อความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และอายุการใช้งานที่ยาวนาน