การตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาที่สำคัญของผู้หญิงทุกคน เพราะเป็นช่วงเวลาที่ผู้หญิงต้องดูแลทั้งตัวเองและทารกในครรภ์ให้แข็งแรงสมบูรณ์ การฝากครรภ์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้หญิงทุกคนควรทำตั้งแต่ทราบผลว่าตั้งครรภ์

การฝากครรภ์ คือ การดูแลสุขภาพครรภ์ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ไปจนถึงก่อนคลอด โดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสูตินารีเวชศาสตร์จะเป็นผู้ดูแลให้คำแนะนำและตรวจติดตามพัฒนาการของทารกในครรภ์ รวมถึงสุขภาพของมารดาอย่างใกล้ชิด

ประโยชน์ของการฝากครรภ์

ประโยชน์ต่อมารดา

• ช่วยให้คุณแม่มีสุขภาพแข็งแรง : ช่วยให้แพทย์ตรวจเช็คสุขภาพของคุณแม่อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพทั่วไป สุขภาพภายใน โรคประจำตัว หรือโรคที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ หากแพทย์พบความผิดปกติใดๆ ก็จะสามารถวินิจฉัยและรักษาได้ทันเวลา ช่วยให้คุณแม่มีสุขภาพแข็งแรงตลอดการตั้งครรภ์

• ช่วยให้ทารกมีพัฒนาการที่สมบูรณ์ : ช่วยให้แพทย์ตรวจติดตามพัฒนาการของทารกในครรภ์อย่างใกล้ชิด หากพบความผิดปกติใดๆ ก็จะสามารถวินิจฉัยและรักษาได้ทันเวลา ช่วยให้ทารกมีพัฒนาการที่สมบูรณ์และแข็งแรง

• ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน : ช่วยให้คุณแม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพของตนเองและทารกในครรภ์อย่างถูกต้อง ซึ่งจะช่วยช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ในระหว่างตั้งครรภ์ เช่น แท้งบุตร การคลอดก่อนกำหนด ครรภ์เป็นพิษ เป็นต้น

ประโยชน์ต่อทารกในครรภ์

• ช่วยดูแลให้ทารกในครรภ์เติบโตและพัฒนาการอย่างสมบูรณ์แข็งแรง

• ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นกับทารกในครรภ์ เช่น ภาวะคลอดก่อนกำหนด ภาวะทารกเสียชีวิตในครรภ์ เป็นต้น

การตรวจสุขภาพระหว่างฝากครรภ์จะแตกต่างกันไปตามอายุครรภ์ โดยแพทย์จะตรวจร่างกาย ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ และตรวจอัลตราซาวด์ เพื่อติดตามพัฒนาการของทารกในครรภ์และสุขภาพของมารดา

การตรวจร่างกายจะรวมถึงการตรวจวัดความดันโลหิต อัตราการเต้นของหัวใจ น้ำหนักตัว ส่วนสูง ความสูงของมดลูก การตรวจภายในเพื่อดูตำแหน่งของทารกในครรภ์ เป็นต้น

การตรวจเลือดจะรวมถึงการตรวจหาโรคติดเชื้อ เช่น โรคซิฟิลิส โรคตับอักเสบบี โรคเอชไอวี การตรวจหาโรคโลหิตจาง การตรวจหาระดับฮอร์โมนต่างๆ เป็นต้น

การตรวจปัสสาวะจะรวมถึงการตรวจหาโปรตีนในปัสสาวะ การตรวจหาน้ำตาลในปัสสาวะ การตรวจหาการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ เป็นต้น

การตรวจอัลตราซาวด์ เป็นการตรวจโดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูงเพื่อดูภาพทารกในครรภ์ ซึ่งแพทย์จะใช้ตรวจติดตามพัฒนาการของทารกในครรภ์ เช่น ตรวจดูขนาดของทารก ตำแหน่งของทารก หัวใจเต้นของทารก เป็นต้น

ข้อควรปฏิบัติระหว่างฝากครรภ์

• รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่

• ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ

• พักผ่อนให้เพียงพอ

• ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

• หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา และยาเสพติด

การฝากครรภ์เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้หญิงทุกคนควรทำตั้งแต่ทราบผลว่าตั้งครรภ์ เพื่อการดูแลสุขภาพของตนเองและทารกในครรภ์ให้แข็งแรงสมบูรณ์ ปลอดภัย และลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ได้