รถยนต์ Hyundai Veloster Street Turbo รุ่นพิเศษ เอาใจสายชิ่งเพียง 200 คัน เท่านั้น

  • จิปาถะ อื่นๆ
  • mocycthai16
  • 0
  • 10 เม.ย. 2564 00:40
  • 58.11.31.***

ค่ายรถยนต์ Hyundai ออสเตรเลีย ประสบความสำเร็จในการจำหน่ายรถยนต์เป็นอย่างดี จึงจัดแคมเปญพิเศษขอบคุณลูกค้าด้วยการนำเสนอ Hyundai Veloster Street Turbo รุ่นพิเศษ ยกระดับรูปลักษณ์ให้สปอร์ตล้ำ ที่จะแสดงให้เห็นถึงความเร้าใจของเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.6 ลิตร สมรรถนะกว่า 200 แรงม้า ทำให้มีความแรงเป็นอย่างยิ่ง หากใครชอบในความเร็ว ต้องไม่พลาดรถยนต์คันนี้

เริ่มจากภายนอกตัวรถ Hyundai Veloster Street Turbo ที่มาพร้อมกับชุดแต่งสีดำ Phantom Black หลายจุดทั้งกระจังหน้า, ฝาครอบกระจกมองข้าง สปอยเลอร์ท้าย, สเกิร์ตข้าง, แผงดิฟฟิวเซอร์ท้าย รวมไปถึงล้ออัลลอย RAYS สีสโมคกว้าง 18 นิ้ว หุ้มยางขนาด 225/40 R18 นอกจากนี้ยังมอบความโดดเด่นด้วยสีตัวถัง Dazzling Blue Mica

รายละเอียดภายในห้องโดยสารรถยนต์คันนี้

ห้องโดยสารได้รับการตกแต่งด้วยวัสดุสีเงินที่ตัดกับสีดำอย่างลงตัว โดดเด่นด้วยเบาะนั่งคู่หน้าสไตล์สปอร์ตศ พร้อมเย็บตราสัญลักษณ์ Turbo ด้วยด้ายสีขาว กับพรมปูพื้นประทับตรา Street Turbo ทางด้านอ็อพชั่นอำนวยความสะดวกต่างๆ ประกอบไปด้วย ระบบอินโฟเทนเมนต์ที่มีทั้งจอสัมผัสขนาด 7.1 นิ้ว พร้อมระบบ Sat-Nav, หลังคาพาโนรามิค ซันรูฟ, กระจกพับไฟฟ้า, กระจกอุ่นไฟฟ้า, Cruise Control กล้องมองหลัง, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และกุญแจ Keyless พร้อมปุ่ม Push Start

สำหรับขุมกำลังของรถยนต์ Hyundai Veloster Street Turbo บรรจุเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร Turbo GDi สี่สูบ ให้กำลังขับเคลื่อนสูงสุด 201 แรงม้า แรงบิด 265 นิวตัน-เมตร ส่วนระบบส่งกำลังจะมีทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์ดูอัลคลัทช์ 7 สปีด ให้เลือก ถือว่าน่าสนใจจริงๆสำหรับรถยนต์รุ่นนี้ ที่มีทั้งความสปอร์ตและความแรงอยู่ในรถยนต์คันเดียว

สำหรับราคารถยนต์ Hyundai Veloster Street Turbo มีให้เลือกด้วยกัน 2 รุ่น ได้แก่ 34,990$ ในรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีด กับราคา $ 37,490 รุ่นเกียร์ดูอัลคลัทช์ 7 สปีด โดยจะจำหน่ายเฉพาะในประเทศออสเตรเลีย และมีจำนวนจำกัดเพียง 200 คันเท่านั้น ถือว่าเป็นรถยนต์ที่ผลิตมาเอาใจคนรักความเร็ว หากใครกำลังมองหารถยนต์ที่มีความแรงและมีจำรวณจำกัด รถยนต์ Hyundai Veloster Street Turbo ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

ที่มา https://my.dek-d.com/0010pond/blog/