แจกเทคนิค 5 ข้อ เพื่อการรับมือต่อกฎหมาย pdpa

  • จิปาถะ อื่นๆ
  • jbtsaccount
  • 0
  • 06 เม.ย. 2564 17:11
  • 171.6.144.***

กฎหมาย pdpa มีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภคอย่างแท้จริง โดยกฎหมาย pdpa ได้กำหนดบทลงโทษไว้ตั้งแต่ทางแพ่งถึงทางอาญา คือตั้งแต่การชดใช้ค่าเสียหายจนถึงการจำคุก ธุรกิจจึงต้องให้ความสำคัญตั้งแต่การรวบรวมข้อมูลของผู้บริโภคไปจนถึงการจัดเก็บไม่ให้รั่วไหล จึงจะสามารถรับมือต่อกฎหมาย pdpa ได้อย่างถูกต้อง เรื่องนี้มีรายละเอียดอย่างไร เราจะมาเล่าให้ฟัง

 

            pdpa คือ กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิความเป็นส่วนตัวที่หากเจ้าของข้อมูลไม่ได้ให้การยินยอมในการนำข้อมูลส่วนตัวไปใช้เพื่อประโยชน์ทางใดทางหนึ่งของธุรกิจ ธุรกิจก็ไม่สามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ได้ มิเช่นนั้นจะต้องได้รับโทษตามกฎหมาย pdpa คือ ตั้งแต่การชดใช้ค่าสินไหม 2 เท่าของความเสียหายจนถึงการจำคุกสูงสุด 1 ปี ซึ่งจะเห็นได้ว่ากุญแจของเรื่องนี้คือข้อมูลส่วนบุคคลที่ธุรกิจจะต้องมีเทคนิคในการจัดการประกอบด้วย

  1. มีการวางแผนจัดการข้อมูลอย่างรัดกุม ตั้งแต่การต้องแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบเมื่อต้องการรวบรวมข้อมูล วิธีการจัดเก็บข้อมูล ตลอดจนการขอข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและการนำไปใช้ให้ถูกวัตถุประสงค์ตามที่ได้แจ้งไว้กับเจ้าของข้อมูล
  2. ได้รับความยินยอมอย่างถูกต้อง และโปร่งใส นั่นหมายถึงธุรกิจไม่สามารถไปค้นหาข้อมูลส่วนบุคคลตามสื่อสังคมออนไลน์และนำมาใช้ประโยชน์โดยไม่ได้รับความยินยอม ถ้าให้ถูกต้องคือจะต้องมีกระบวนการในการขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลซึ่งกระบวนการนั้นจะต้องทำอย่างโปร่งใสด้วย เช่น การบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร
  3. ชี้แจงและเขียนนโยบายที่เข้าใจง่าย คือธุรกิจไม่สามารถใช้ภาษาทางกฎหมายหรือภาษาเฉพาะทางที่สร้างความสับสนต่อเจ้าของข้อมูลในการขอความยินยอมได้เนื่องจากกฎหมายให้ความคุ้มครองเจ้าของข้อมูลตั้งแต่การได้รับการแจ้งให้ทราบ การเข้าถึงข้อมูล ตลอดจนสิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลดังกล่าว ซึ่งหากไม่ได้รับการชี้แจงให้เข้าใจตรงกันตั้งแต่แรกก็อาจก่อให้เกิดความเสียหายในอนาคตได้
  4. บอกรายละเอียดเกี่ยวกับการนำข้อมูลไปใช้ให้ครบถ้วน หมายถึงจะต้องมีการแจ้งวัตถุประสงค์ในการขอข้อมูลตั้งแต่ขั้นตอนของการรวบรวมและชี้แจงรายละเอียดของการนำข้อมูลดังกล่าวว่าไปใช้เพื่อเป้าหมายใดของธุรกิจต่อเจ้าของข้อมูลอย่างครบถ้วนก่อนได้รับความยินยอม ธุรกิจจึงจะสามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ได้
  5. ผู้ใช้งานต้องสามารถเข้าถึงการยกเลิกได้อย่าง Real Time ข้อนี้จะเชื่อมโยงมาตั้งแต่การชี้แจงนโยบายในการรวบรวมข้อมูลซึ่งกำหนดสิทธิของเจ้าของข้อมูลไว้ด้วยว่ามีสิทธิ์ในการระงับมิให้นำข้อมูลไปใช้ได้ตลอดเวลา นั่นหมายความว่าธุรกิจต้องมีระบบที่จะสนับสนุนเจ้าของข้อมูลในส่วนนี้ด้วยเพื่อให้ขั้นตอนการให้หรือยกเลิกความยินยอมสามารถทำได้ง่ายขึ้น

 

ข้อมูลส่วนบุคคลคือกุญแจสำคัญที่ทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินการต่อไปตามเป้าหมายได้ ดังนั้นธุรกิจจึงจำเป็นจะต้องมีเทคนิคในการบริหารและจัดการกับข้อมูลที่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายนี้อย่างครบถ้วน กระทำอย่างถูกต้องและต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์อย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลจนเกิดเป็นกรณีของการฟ้องร้องตามกฎหมายได้ในภายหลัง

 

ที่มาข้อมูล

  • https://www.everydaymarketing.co/update-news/7-เรื่อง-pdpa-ที่ผู้ประกอบการ/