ขี่ ATV ตะลุยเมืองคอง

  • ทริป ท่องเที่ยว
  • พิชัย
  • 5
  • 21 พ.ค. 2553 14:20
  • 58.9.203.***
ATV ตะลุยเมืองคอง The Peak เชิญชวนมาเที่ยว แบบลำบากลำบนครับ........... โปรแกรมนี้เป็นโปรแกรมใหม่เอี่ยม สดๆ ร้อน ๆ Trip Q-5 2 day 1 night Safari เพราะ ทาง The Peak พึ่งไปถอยรถ ATV มาใหม่ 1 กระบุง โดยเป็นรถตัวแรง ขนาด 250 cc มี 2 รุ่น โดย รุ่นแรก หน้าตาแปลกๆ เหมือน จะบินได้ ชื่อรุ่น Black hawk เป็น Sport ATV ขนาด 250 cc เกียร์ แมนนวล 5 speed ฐานล้อหน้ากว้าง เข้าโค้ง สั่งได้ รูปร่างปราดเปรียว อีกรุ่นหนึ่ง เป็นรุ่น Rhino รุ่นนี้ เป็น Utility ATV 250 cc เกียร์ Semi-auto ฟังดูอาจจะ งง ๆๆ ก็ จะ auto ก็ไม่ auto ยังไงกัน ก็ตัวนี้ เป็น technology ที่พึ่งพัฒนากันได้ ประมาณ 10 ปี ที่ผ่านมานี้เอง โดย เป็นการผสมระหว่าง auto ที่บิดอย่างเดียว แล้วรถเปลี่ยนเกียร์เอง เหมือน scooter บ้านเรา ซึ่งบางรุ่นก็เปลี่ยนเกียร์ได้เอง บางรุ่นก็ไม่เปลี่ยนเกียร์เลย มีอยู่เกียร์เดียวนั่นแหละ ครับ ที่เรียกว่า รถ auto และก็ ผสมกับเกียร์ ธรรมดา ที่ต้องใช้บีบคลัช ถึงจะเปลี่ยนเกียร์ได้ เหมือนรถยนต์ ที่ต้องเหยียบคลัช นั่นแหละ ครับ ทีนี้ ไอ้เจ้า Semi-auto ก็คือ มีเกียร์ เหมือน เกียร์ ธรรมดานี่แหละ เปลี่ยน เกียร์ 1 2 3 4 ได้เลย แต่ ไม่ต้องบีบคลัช เปลี่ยนเกียร์ตามใจคนขับ ได้เลย ก็ เป็นความสะดวก อีกแบบ สำหรับผู้ที่ใช้คลัชยังไม่เป็น ประเภท ปล่อย ดับ ปล่อย ดับ นั่นแหละครับ ทีนี้ ตัวเค้าเอง Rhino นี่นะครับ มีข้อดี อีกอย่างก็คือ เป็นรถที่ design ให้บรรทุก สัมภาระได้ เยอะแยะ ทั้ง ข้างหน้า ข้างหลัง พะรุงพะรังไปหมด และ ขับเคลื่อนล้อหลังโดยใช้เพลาขับ เหมือนรถยนต์ จึงเหมาะมาก สำหรับการลุยทางไกล พูดไปพูดมาเหมือนกับว่า Black hawk ไม่เหมาะ ต่อการเดินทางไกล ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ Black hawk เป็นรถ Sport การทรงตัวคล่องแคล่ว ลุยป่าลุยเขาได้สบาย จึงเหมาะสำหรับคน แรงๆ และ สัมภาระ ไม่ต้องแบกครับ ไปกันตัวเปล่า นี่แหละ บิด อย่างเดียว เอามันส์ครับ ก็แล้วแต่ลูกค้าจะชอบรุ่นไหนนะครับ ได้หมด ไม่หวงครับ โดยทางเราเตรียม Black hawk ไว้ 22 คัน Rhino 12 คัน เพื่อรองรับการทำทริปนี้โดยเฉพาะ ทีนี้ มาเข้าเรื่อง การออกทริปนี้กันดีกว่า..... ก่อนอื่น ก็ต้องมี Meeting กันก่อนเลยครับ 1 วันตอนเย็น ก่อนการเดินทาง เพื่อที่จะได้ อธิบายเรื่องราวต่างๆ และการเตรียมความพร้อมของคณะทัวร์ ทุกๆท่าน เริ่มตั้งแต่ รถ ATV ที่ทุกคนต้องเลือกเป็นพาหนะคู่ใจ รถใครรถมันครับ เลือกแล้วเลือกเลย ห้ามเปลี่ยนครับ เดี๋ยวคนอื่นเขาจะเคืองเอา พอได้รถที่ถูกใจ ก็ต้อง เข้าใจเค้าก่อน อะไรอยู่ตรงไหน ดูแลอย่างไร สูงต่ำแค่ไหน เข้าทางลาดเอียงได้กี่องศา อะไรคือจุดแข็ง จุดอ่อน ของรถ มีกี่เกียร์ เข้าเกียร์ อย่างไร เบรค เป็นอย่างไร เมื่อทุกอย่างพร้อม ก็มาคุยกันเรื่องเส้นทาง อันนี้สำคัญ เหมือน บอกลายแทงแหละครับ จะได้เล่าให้กันฟังก่อน ว่ามันจะหนักสักแค่ไหน จะได้เตรียมตัวถูก ยิ่งถ้าเป็นหน้าฝน งานเข้าครับพี่น้อง คุยกันยาว เรื่องต่อมาก็คงเป็นเรื่อง อาหาร, ยา การ Rescue หากเกิดอุบัติเหตุ หรือรถเสีย รถพังระหว่างการเดินทาง ความรับผิดชอบของทางบริษัท ความรับผิดชอบของลูกค้า และหลายๆอย่าง มากมายครับ คุยกันก็คงราวๆ 2 ชั่วโมงหรือกว่านั้นครับ แล้วก็แยกย้าย กันไป ใครยังขาดเหลืออะไร จะได้หาซื้อกันตุนไว้ ในคืนนั้นได้ทันครับ เช่น เสื้อกันฝน ยาส่วนตัวสำหรับบางท่าน ขนม ถุงกันน้ำ วิธีเก็บกล้องถ่ายรูป กล้อง VDO กระเป๋าคาดเอว ** ที่สำคัญทริปนี้ กรุณาจองตั๋วกลับ วันที่สาม นะครับ อย่าจองเย็นวันที่สอง เพราะ เวลากลับไม่แน่นอน ครับ อาจจะมาถึง 6 โมงเย็น หรือ เที่ยงคืน ไม่อาจคาดเดาได้ครับ Start…. เช้าวันแรกของการเดินทาง ทุกคนมาพร้อมกันพร้อมหน้าพร้อมตา ก็เริ่มละครับ เก็บข้าวของสัมภาระ ต่างๆ ประจำรถ บางส่วนก็ฝากไว้กับรถ Back up บางส่วนก็ต้องพกไปด้วย ส่วนทีมช่างนี่ เขาจะยุ่งหน่อย เพราะเขาต้องเตรียมเยอะกว่าเพื่อน เออากันถึงขั้น ถ้าเพลาล้อ หรือปีกนกหัก ก็ต้องมีอะไหล่กลางป่าล่ะครับ ต้องเอารถออกมาให้ได้ ยางอะไหล่ไม่ต้องพูดถึง ของพื้นๆ ขาดบ่อได้ดอก. โอกาสยางแบน 50:50 อยู่แล้ว เพราะตอไม้ระหว่างทางเยอะมาก รถ Back up นี่มีบทบาทสำคัญครับ เพราะ เขาจะบรรทุก ของใช้ กระเป๋า อะไหล่ อุปกรณ์ rescue และสารพัดที่อยากจะขนไปกับเขา และคอยไปรอเราข้างหน้าตลอด ...และที่สำคัญ จะเตรียมรถสำรอง ไปด้วย เผื่อไว้กันเหนียวครับ เมื่อแพคของกันจน เหมือน Refugee เรียบร้อยแล้วทีนี้ ก็ ออกเดินทางกันได้แล้วครับ ระยะทางที่วิ่งกันวันแรก นี้ ก็ ร่วมๆ 100 กม.กว่าๆ เป็นทาง ลาดยางในช่วงเริ่มต้น ประมาณ 30 กม ตามมาด้วย Off-road พื้นๆ ธรรมดา แบบ warm up ประมาณ 30 กม. และตามมาด้วย Off-road แบบ 3-4 ดาว ประมาณ 40 กม.(ดาว พวกนี้เปลี่ยนไปตามปฏิทินนะครับ ถ้าหน้าฝน เผลอๆ ขึ้น 5 ดาวสบายๆ ครับ) โดยเส้นทางจะวิ่งไปทางสาย แม่ริม ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือ ของเชียงใหม่ ลัดเลาะ ทางลาดยาง ลูกรัง สายชนบทไปเรื่อยๆ จน ถึง ระยะที่ห่างไกลจากเมือง เชียงใหม่ ประมาณ 30 กม จึงเริ่มเข้าสู่เส้นทาง Off-road แบบ พื้นๆ เป็นการฝึก ความเคยชิน ระหว่าง Joggy กับม้า ก่อนนะครับ ซึ่งเป็นเส้นทางที่สวยมาก ผ่านทุ่งนา ป่าเขา เนินสูงชัน หมู่บ้านชาวเขา ทั้งกะเหรี่ยง ลีซอ หมู่บ้านชาวบ้าน สลับกันไปมา เพลินๆ ครับ ทางไม่ยากเท่าไหร่ครับ ผู้หญิงขับได้ แต่ก็อย่าเผลอเหมือนกันนะครับ เพราะบางช่วง ก็แคบๆ ข้างๆ เป็นเหวเหมือนกัน อ้อ เกือบลืมไป ทริปนี้ไม่อนุญาตให้ ซ้อนท้ายกันนะครับ รถ 1 คัน คนขับ 1 คน ครับ เด็ก ๆ ไม่สามารถไปได้ครับ อันตรายครับ ผ่านมาได้ครึ่งทาง ก็จะเริ่มเข้าสู่ เส้น Off-road ที่เป็นเรื่องเป็นราว ขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง ก็ โขยกกัน ไป เรื่อยๆ ครับ เข้าไปในป่าเรื่อยๆ ผ่านทางธุรกันดาร ผ่านหมู่บ้าน ต่างๆ ระยะทาง ก็ ราวๆ 30-40 กม. ของความมันส์ บางช่วงก็แอบมี คอนกรีตเหมือนกัน แต่ แป๊บเดียว ก็จุดหมายปลายทางก็คือ เตียงนอน นุ่มๆ ครับ กับ มื้อเย็น อร่อยๆ จานใหญ่ๆ สักหลายๆจาน ครับ และแล้วทุกท่าน ก็เดินทางมาถึง จุดหมายปลายทางที่ บ้านสบก๋าย อำเภอ แม่แตง เชียงใหม่ ในตอนเย็น ซึ่งเป็นหมู่บ้าน เล็กๆ ที่เป็น แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ของเชียงใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ล่องแก่ง เดินป่า โดยมีสายน้ำแตง ไหลผ่านกลางหมู่บ้าน เมื่อมาถึงทุกคน ก็สะบักสะบอมกันไปตามๆ กัน กับระยะทาง และเวลา ในการเดินทางตลอดวัน 6-7 ชั่วโมง หมดสภาพไปตามๆ กัน ก็ ได้โอกาส ในการ อาบน้ำล้างเหงื่อไคล ฝุ่นโคลน ทานอาหารเย็น มื้อที่อร่อยที่สุด เพราะหิวสุดๆ ละก็ เมาท์กระจาย ตลอดคืน ส่วนทีมช่าง ไม่ได้หยุดหรอกครับ ต้องคอยตรวจ เช็ค ซ่อมรถ ละเอียด ทุกคัน เพราะ ในวันรุ่งขึ้น นี่ พลาดไม่ได้ครับ ของจริงรออยู่ มาแล้ว ๆ เช้าวันที่สอง ที่รอคอย โหด มันส์ ฮา ก็วันนี้เลย .... หลังจากรับประทานอาหารเช้าแสนอร่อยกันเรียบร้อย แพคของ ตรวจรถ แล้วก็ ไปกันเลยครับ ...จุดหมายปลายทาง เมืองคอง หลังจากล้อหมุนปุ๊บ ก็ เจอเลยครับทางลูกรัง ตามมาด้วย เนินเขา ทางชัน วิวขั้นเทพ เลี้ยวหักขวาเข้าทางป่า จากนี้ไป เจอหมดทุกรูปแบบครับ ทางแคบ ดินโคลน หลุมลึก ผ่านน้ำลำธาร ข้ามสะพานไม้ ลากรถ winch(หน้าฝน) ขุดถนน มาครบ ครับ รับประกัน ความมันส์ ครับ เผลอๆ บางโอกาส อาจจะต้อง ซ่อมรถกันกลางป่าละครับ ไม่ว่าจะเบรกหาย ล้อหัก ยางแบน เครื่อง heat ขออย่าให้เจอเลยครับ คิดแล้วก็ หนาวๆ ร้อนๆ หลังจากผ่านมาได้ ถ้าหน้าแล้งก็คงจะ 2-3 ชั่วโมง หน้าฝน อ่านไม่ได้ครับ ลืมไปเลยเรื่องกำหนดเวลา ก็จะมาถึง เมืองคอง หมู่บ้านเล็กๆ กลางป่า ที่สวยงาม ต้นกำเนิดของสายน้ำแตง ดินแดนแห่งขุนเขา และลำธาร เราก็ได้ พักผ่อน ทานกลางวัน แสนอร่อย กับก๋วยเตี๋ยว อาหารตามสั่ง มีทุกอย่าง ยกเว้น ของที่ไม่มีครับ อิดออดกันพองาม ก็ตะลุยกันต่อ ขึ้นไปเที่ยวหมู่บ้านชาวเขา เล็กๆ บนเขา แต่ทางร้ายเหลือเกิน ใจร้ายกับช่วงล่างมากเลยครับ ใช้เวลากันประมาณ 1 ชั่วโมงในหน้าแล้ง แต่ถ้าเป็นหน้าฝน อาจจะหมดสิทธิ์ ขึ้นครับ เพราะเจอดินหนังหมูแน่ๆ หมู่บ้านนี้ เป็นชาวเขาเผ่า ลีซอ ..... ตั้งอยู่บนเขา เห็นวิวสวยมาก..... ครับ พักเครื่อง เดินเล่น แล้วก็ตีรถย้อนกลับเข้าเมืองคอง อีกครั้ง ก็ อีกนั่นแหละครับ ฝุ่นโขมงในหน้าแล้ง แต่หน้าฝน โคลนล้วนๆ ครับ พักให้หายเหนื่อย ตรวจสภาพรถ รถ พร้อม คนพร้อม ออกเดินทาง กลับสบก๋ายครับ จากจุดนี้ใครถอนตัวไม่ได้นะครับ มาแล้วต้องเดินหน้าลูกเดียว ไม่มีถอย ก็ จะใช้เวลาเข้า Off-road อีก 2-3 ชั่วโมง ในหน้าแล้ง และ 3-5 ชั่วโมงในหน้าฝน ก็จะผ่านขุนเขา ลำธาร ทางโคลน ทางดิน หลุมลึก ข้ามน้ำ ข้ามสะพาน ...... ฟลุคๆ เย็น ๆ ก็จะมาถึง สบก๋าย ที่เดิม ที่ค้างคืนเมื่อคืนนี้ ล้างหน้าล้างตา ทำความสะอาดร่างกาย เก็บข้าวของ ขึ้นรถ กลับ เชียงใหม่ กันครับ ส่วนทีมงานก็ ขนรถ atv ทั้งหมด ขึ้นรถบรรทุก กลับเชียงใหม่เองครับ เป็นอันเสร็จทริป ลำบากลำบน พร้อมกับความทรงจำ และรูปภาพ มากมาย จนอดใจรอไม่ไว้ที่จะโหลดภาพแห่งความทรงจำทั้งหมดลง Computer .... ทางทีมงาน The Peak ทุกคน เรารออยู่ที่เชียงใหม่นะครับ หากคุณอยากจะมามันส์ กับเรา ติดต่อทีมของเราได้ทุกเวลาเลยนะครับที่ ww.thepeakadventure.com หรือที่ 053-800567-8 ................................................................................................................................................................................ ทริป นี้เป็นทริป การเดินทาง ท่องเที่ยว 2 วัน 1 คืน ระยะ ทางไปกลับ ประมาณ 300 กิโลเมตร เดินทางโดยรถ ATV เข้าสู่เส้นทาง Off-road แบบเต็มๆ จุดหมายปลายทาง คือ เมืองคอง.... เมืองคอง เป็นเมืองเล็กๆ ที่อยู่ใกล้กับ อำเภอ เชียงดาว โดย ชาวบ้านที่อยู่ เป็น ชาวบ้านธรรมดา ทั่วไป และมีชาวเขาเผ่าต่างๆ อยู่รวมด้วย เช่น ชาวเขาเผ่า ...กะเหรี่ยง ลีซอ อีก้อ มูเซอ High light ของทริป จะอยู่ที่ เราเลือกที่จะเดินทาง โดย รถ ATV เพราะเส้นทางที่จะไป เป็นเส้นทาง มอเตอร์ไซค์ เข้าไปในป่าลึก อุปสรรค มีทุกรูปแบบ ทั้งเขาสูงชัน เหว ทางตัดผ่านลำธาร เส้นทางธุรกันดาร ................................................................................................................................................................................ The Peak Adventure Tour 302/4 เชียงใหม่-ลำพูน ต. วัดเกต อ. เมือง เชียงใหม่ 50000 www.thepeakadventure.com Tel: 053-800567-8 Fax: 053-800314